“อภิสิทธิ์”เผยตั้งใจส่ง สส.ครบ 400 เขต ย้ำไม่มีใครผูกขาดคะแนนเสียงพร้อมชนพวกซื้อเสียง ยอมรับได้ขยับวันเลือกตั้ง เหตุสุดวิสัย
เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 16 ธ.ค. 2568 พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงผลสำรวจความคิดเห็นต่อกระแสนิยมทางการเมืองที่พรรคประชาธิปัตย์ที่ได้คะแนนนิยมเพิ่มขึ้น ว่า ผลสำรวจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา จึงต้องมุ่งมั่นทำงานต่อไป
ตนมองว่า คะแนนที่ตั้งใจเลือกพรรคประชาธิปัตย์ เพราะความคาดหวังที่อยากเห็นทางเลือกใหม่ในการเมืองที่หายไปในช่วงปัจจุบันหรือสิบกว่าปีที่ผ่านมา ซึ่งพรรคต้องพิสูจน์ให้เห็นว่า จะเป็นทางเลือกและความหวังของประชาชนได้ ทั้ง นโยบาย และผู้สมัครรับเลือกตั้ง
ส่วนความชัดเจนในการเปิดตัวผู้สมัคร สส. และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคประชาธิปัตย์ อยู่ในขั้นตอนทำไพรมารี่โหวตที่จะเสร็จสิ้นในวันที่ 19 ธ.ค.นี้ และจะให้กรรมการสรรหาในนามพรรคดำเนินการต่อ และเมื่อทำเสร็จแล้วจะเสนอกรรมการบริหารพรรค เพื่อพิจารณาได้สัปดาห์หน้า โดยมั่นใจว่าจะทันพร้อมกับวันเปิดรับสมัครผู้ลงสมัคร สส. ช่วงวันที่ 27-28 ธ.ค. นี้
ขณะที่บัญชีของผู้ที่พรรคจะสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรี ที่จะได้ข้อยุติสัปดาห์หน้า ส่วนรายละเอียดจะเป็นใครบ้างนั้น ขอให้ผ่านที่ประชุมกรรมการบริหารพรรค แล้วจะแจ้งอีกครั้ง ทั้งนี้ พรรคตั้งใจส่งให้ครบ ถ้าไม่ครบก็ใกล้เคียง 400 เขต
...
เมื่อถามถึงกรณี อดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ ที่ย้ายสังกัด พรรคจะส่งคนลงเลือกตั้งหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ต้องแข่งขันตามปกติ เพราะพรรคเป็นสถาบันทางการเมือง ที่ยึดแนวทางนี้มาตลอด 80 ปี ที่ผ่านมาพรรคเปลี่ยนผ่านมาหลายยุค หลายสมัยต้องสร้างคนใหม่ๆ ตลอดเวลา ดังนั้นเมื่อคนเดิมตัดสินใจไปอยู่พรรคอื่น ประชาธิปัตย์มีหน้าที่สร้างคนใหม่ เพื่อเดินหน้าตามแนวทางของพรรคต่อไป
เมื่อถามย้ำว่า ในเขต สส.เก่า พรรคประชาธิปัตย์จะหวังชนะ หรือ ล้มแชมป์ได้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่มีใครผูกขาดคะแนนเสียงในเขตเลือกตั้งไหนเลยทั่วประเทศ ตนทราบดีว่า ปัจจุบันประชาชนบางส่วนอาจบอกว่า เขตเลือกตั้ง ไม่เกี่ยวกับเรื่องกระแสความนิยมแล้ว คือการใช้เงิน ใช้ทองมากกว่า แต่พวกเราต่อสู้เรื่องค่านิยม อุดมการณ์ นโยบาย ตัวบุคคลที่จะเข้าไปทำงาน เพราะหากปล่อยให้สภาพการเมืองปล่อยให้เงินชี้ขาดได้ ตนมองไม่เห็นว่า ปัญหาที่สับสนจะแก้ไขอย่างไร ทั้งเศรษฐกิจ การเมือง และ สังคม
เมื่อถามย้ำว่า มีการประเมินถึงการเลื่อนการเลือกตั้งปี 2569 ตามที่ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กำหนดว่าจะเป็นวันที่ 8 ก.พ.69 อย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนเข้าใจสถานการณ์ปัจจุบันและเข้าใจข้อกฎหมายว่า กกต. ได้กำหนดเงื่อนไขกรอบเวลาตามรัฐธรรมนูญไว้ก่อนแล้ว แต่ขณะเดียวกันในบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญเปิดทางกรณีที่มีเหตุจำเป็นอันหลีกเลี่ยงไม่ได้ อาจต้องเลื่อนวันลงคะแนน ถือเป็นอำนาจหน้าที่ของ กกต. ตัดสินใจ ดังนั้นตนทำงานบนสมติฐานว่า จะเป็นไปตามกรอบเวลาที่ กกต. เคาะ ทั้งนี้ ตนเข้าใจได้ หากมีเหตุสุดวิสัยจริงเป็นไปตามกฎหมายและเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องยอมรับ