กระทรวงกลาโหมย้ำ การเมืองนำการทหาร การหยุดยิงขึ้นอยู่กับรัฐบาล กองทัพเดินหน้าปฏิบัติการตามหลักสากล เกือบ 9 วันลดทอนขีดความสามารถฝ่ายตรงข้ามอย่างต่อเนื่อง
วันที่ 16 ธันวาคม 2568 พลเรือตรี สุรสันต์ คงสิริ โฆษกกระทรวงกลาโหม ชี้แจงกรณีความเป็นไปได้ของการเจรจาในระดับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จะส่งผลต่อทิศทางและแนวโน้มของสถานการณ์สู้รบตามแนวชายแดนอย่างไรว่า โดยหลักการ การบริหารจัดการประเทศต้องยึด “การเมืองนำการทหาร” ขณะที่การทหารเป็นเพียงกลไกหนึ่งในการสนับสนุนการดำเนินนโยบายของรัฐ การตัดสินใจเรื่องการหยุดยิงหรือไม่ ขึ้นอยู่กับมติของรัฐบาล โดยเฉพาะการพิจารณาผ่านสภาความมั่นคงแห่งชาติ
สำหรับกระแสที่ตั้งข้อสังเกตว่า กองทัพอาจลดการหยุดยิง เนื่องจากถูกนานาชาติจับตามองว่าไทยใช้การตอบโต้ที่รุนแรงขึ้นนั้น โฆษกกระทรวงกลาโหม ยืนยันว่า การปฏิบัติการทางทหารของไทยยังคงยึดหลักสากลตามกฎบัตรสหประชาชาติ และกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ อย่างเคร่งครัด โดยมี 3 หลักสำคัญ คือ ความจำเป็น ความได้สัดส่วน และการแยกแยะเป้าหมาย
ยืนยันว่า การโจมตีที่ผ่านมาเป็นการโจมตีเฉพาะเป้าหมายทางทหารเท่านั้น ส่วนระดับความเข้มข้นของการปฏิบัติการ ขึ้นอยู่กับการตอบโต้และขีดความสามารถของฝ่ายกัมพูชา เพื่อให้การใช้กำลังเป็นไปอย่างเหมาะสมตามหลักสากล
ด้านการประเมินสถานการณ์ล่าสุด พันเอก ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า พบการใช้อาวุธยิงสนับสนุนจากฝ่ายกัมพูชาเข้ามาในพื้นที่ของไทย ลดลงอย่างชัดเจน ซึ่งเป็นผลจากการปฏิบัติการร่วมกันของกองทัพบกและกองทัพอากาศ ในการลดทอนขีดความสามารถด้านอาวุธ ระบบควบคุมการยิง และเส้นทางส่งกำลังบำรุง อย่างไรก็ตาม ยังพบการต้านทานในบางพื้นที่ โดยเฉพาะจุดที่กองทัพไทยสามารถควบคุมพื้นที่ได้แล้ว และฝ่ายตรงข้ามพยายามช่วงชิงคืน แต่ในภาพรวม สถานการณ์มีแนวโน้มเบาบางลง
...
ขณะที่ พลอากาศโท จักรกฤษณ์ ธรรมวิชัย โฆษกกองทัพอากาศ ย้ำว่า การปฏิบัติการทางทหารของไทย ไม่ได้ลดความเข้มข้น แต่ยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ควบคู่กับมิติทางการทูต เพื่อกดดันให้ฝ่ายกัมพูชา เข้าสู่การพูดคุยอย่างมีเหตุมีผล โดยเฉพาะการโจมตีเป้าหมายสำคัญ เช่น คลังอาวุธ กระสุน และวัตถุระเบิด ซึ่งส่งผลให้ฝ่ายกัมพูชา ถูกลดทอนขีดความสามารถทางทหารอย่างมีนัยสำคัญ รวมถึงตัดเส้นทางส่งกำลังบำรุง ทำให้การเคลื่อนย้ายยุทโธปกรณ์เข้าสู่แนวหน้าทำได้ยากขึ้น
โฆษกกองทัพอากาศ ประเมินว่า เกือบ 9 วันที่ผ่านมา การปฏิบัติการของไทยประสบความสำเร็จในการลดทอนขีดความสามารถในการปฏิบัติภารกิจของฝ่ายตรงข้าม อย่างต่อเนื่อง
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงกรณีที่โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยเรื่องการใช้ Lobbyist ของฝ่ายกัมพูชา โดยโฆษกกระทรวงกลาโหมชี้แจงว่า จากการติดตามพบว่า มีการว่าจ้าง Lobbyist ชาวตะวันตกออกมาสื่อสารเป็นภาษาอังกฤษกับประชาคมโลก กล่าวหาไทยใช้ความรุนแรงและสร้างผลกระทบต่อพลเรือน
ทั้งนี้ ฝ่ายไทยยืนยันว่า การใช้อาวุธยุทโธปกรณ์เป็นอาวุธที่มีความแม่นยำสูง และกำหนดเป้าหมายเป็นเป้าหมายทางทหารเท่านั้น หากมีผลกระทบต่อพลเรือนก็อยู่ในระดับต่ำมาก
โฆษกกระทรวงกลาโหม ตั้งข้อสังเกตว่า การเคลื่อนไหวของ Lobbyist ดังกล่าวไม่มีหลักฐานหรือภาพประกอบที่ชัดเจน และมีลักษณะเป็นการสร้างกระแสผ่านการสื่อสารเชิงอารมณ์ จึงขอให้ประชาชนเพิ่มความระมัดระวังในการรับข่าวสาร และใช้วิจารณญาณในการเสพสื่อจากทุกช่องทาง