“ยศชนัน” แสดงวิสัยทัศน์นำประเทศพ้นวิกฤต ชูปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ - เทคโนโลยี ให้คนไทยได้รับโอกาสที่เท่ากัน มั่นใจ “เพื่อไทย” ทำได้
วันที่ 16 ธ.ค. 2568 นายยศชนัน วงศ์สวัสดิ์ ผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย กล่าวแสดงวิสัยทัศน์ว่า ชีวิตตนคือภาพสะท้อนคนไทยจำนวนมากที่เติบโตจากครอบครัวข้าราชการและพยาบาล ย้ายถิ่นฐานไปหลายจังหวัด เรียนโรงเรียนประจำจังหวัด ได้รับการปลูกฝังว่า ความรู้ ความขยันคือหนทางเปลี่ยนชีวิต ประเทศไทยผ่านวิกฤตเศรษฐกิจครั้งใหญ่ ปี 2540 สามารถฟื้นตัวได้จากความเชื่อมั่นว่า คนไทยทำได้ อย่างพรรคไทยรักไทยในอดีตที่สร้างนโยบายเปลี่ยนชีวิตประชาชน ปลดวิกฤตให้ประเทศ แต่ตลอดเส้นทางเผชิญความไม่เป็นธรรมซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนถึงปัจจุบัน ปี 2568 ประเทศไทยเผชิญPerfect Storm ทั้งเศรษฐกิจ ภูมิรัฐศาสตร์ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การเปลี่ยนผ่านทางเทคโนโลยี นายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทยแก้ปัญหาเหล่านี้เต็มที่ แต่สถานการณ์การเมืองไทยทำให้ต้องเปลี่ยนนายกฯ ปีละครั้ง แต่ทำได้ขนาดนี้ต้องชื่นชมอดีตนายกฯ พรรคเพื่อไทย ส่วนทิศทางอนาคตประเทศไทยนั้น ถ้าวันนี้เราเลือกทำสิ่งใหม่ ปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ โครงสร้างเทคโนโลยี ใช้ความคิดสร้างสรรค์คนไทย เชื่อว่าอนาคตที่ดีของประเทศไทยเป็นไปได้
ตั้งเป้ายกระดับรายได้ให้เร็วที่สุด
นายยศชนัน กล่าวว่า ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย จะนำประเทศไทยพ้นวิกฤตที่กำลังเผชิญไปให้ได้ มีเป้าหมายยกระดับประเทศไทยสู่ประเทศรายได้สูงให้เร็วที่สุด ใช้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และ AI เป็นแกนหลัก ผ่านยุทธศาสตร์สำคัญได้แก่ การเพิ่มประสิทธิภาพเศรษฐกิจเดิมด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ในส่วนภาคเกษตรกรรม, อุตสาหกรรมการผลิต, ภาคการบริการ พร้อมไปกับการสร้างเครื่องยนต์เศรษฐกิจใหม่จากศักยภาพท้องถิ่นผสานเทคโนโลยีล้ำสมัย ครอบคลุมการเปลี่ยนผ่านด้านสภาพภูมิอากาศ การผลิตอุตสาหกรรม และสุขภาพและคุณภาพชีวิต
...
ให้คนไทยได้รับโอกาสเท่ากัน
นายยศชนัน กล่าวว่า ขณะเดียวกันบทบาทภาครัฐเองต้องปรับตัว เพื่อรองรับเศรษฐกิจมูลค่าสูง สิ่งรัฐบาลต้องเดินหน้า 3 ด้าน คือ 1. สร้างความมั่นคงรอบด้าน ทั้งการทหาร ความมั่นคงไซเบอร์ ความมั่นคงด้านอาหาร พลังงาน และการรับมือ Climate Change ควบคู่การทูตที่รักษาสมดุลผลประโยชน์ของไทย 2. สร้างความเชื่อมั่นผ่านการฟื้นฟูหลักนิติธรรมคืนความยุติธรรมให้ประชาชน ใช้Digital Government สร้างความโปร่งใส ป้องกันการคอร์รัปชัน ควบคู่ไปกับ AI Transformation สร้างระบบรัฐแบบ One Stop Service 3. การวางรากฐานโครงสร้างพื้นฐานสมัยใหม่ ตั้งแต่คมนาคม, โลจิสติกส์, ความปลอดภัยด้วย AI, โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล, พลังงานสะอาด, สวัสดิการ, การศึกษา, วิจัย และนวัตกรรม รองรับเศรษฐกิจใหม่และยกระดับเศรษฐกิจเดิม ให้ความสำคัญการเตรียมคนให้สอดรับการวางโครงสร้างรากฐานเศรษฐกิจใหม่ คนไทยทุกคนต้องได้รับโอกาสเติบโตที่เท่ากัน จะเกิดที่ไหนในแผ่นดินไทยก็เป็นคนไทย ต้องได้รับโอกาสเท่ากัน ไม่ได้ทำเพื่อพรรคการเมืองใด แต่ทำเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลง มีหัวใจอยู่ที่ประชาชน
การเดินทางครั้งนี้ไม่ใช่การเดินทางของพรรคเพื่อไทย แต่เป็นการเดินทางให้เรากลับมาช่วยสร้างประเทศขึ้นใหม่อีกครั้ง “วันนี้ทุกคนจากพรรคไทยรักไทยที่ไม่ได้รับความยุติธรรม ทุกคนกลับมาที่บ้านของพวกเรา บวกกับคนรุ่นใหม่ พรรคเพื่อไทย มารวมกัน มั่นใจว่า เราทำได้ เริ่มจากวันนี้ เวลานี้ วินาทีนี้ ยกเครื่องประเทศไทย ถ้าเพื่อไทยทำได้ ประเทศไทยก็ทำได้แน่นอน”