กกต. มั่นใจจัดเลือกตั้งพื้นที่สู้รบได้ ไม่ต้องเลื่อน -โครงการคนละครึ่งเฟส 2 ส่อชะงัก ยึดเกณฑ์ความได้เปรียบเสียเปรียบ เว้นปูนบำเหน็จทหารเดินหน้าต่อได้
วันที่ 15 ธ.ค.2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การจัดการเลือกตั้งในสถานการณ์สู้รบขณะนี้ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยืนยันว่า จะสามารถจัดการเลือกตั้งตามแผนที่วางไว้ได้ โดยขณะนี้ทางสำนักงาน ได้สำรวจว่าในจังหวัดที่มีการสู้รบ กระทบต่อการเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งใดบ้าง และเชื่อว่า สามารถใช้วิธีบริหารจัดการพาคนไปหาหน่วยเลือกตั้งได้ โดยไม่จำเป็นต้องเลื่อนวันเลือกตั้งออกไป เพราะการเลื่อนการเลือกตั้งทั้งประเทศ น่าจะไม่เป็นผลดีทั้งกับ กกต.และรัฐบาล โดย กกต. อาจถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเอื้อต่อรัฐบาล ขณะที่รัฐบาลเองก็จะถูกวิพากษ์วิจารณ์ ว่าใช้ กกต. เป็นเครื่องมือ
ส่วนการหารือของ กกต.กับผู้แทนรัฐบาลช่วงกลางวันที่ผ่านมา เรื่องของการจัดทำประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น ทาง กกต. แจ้งกับทางตัวแทนรัฐบาลว่า หากจะจัดให้ทำประชามติในวันเดียวกับการเลือกตั้ง สส. จำเป็นต้องมีเวลาไม่น้อยกว่า 30 วัน จนถึงวันเลือกตั้ง เพื่อให้ กกต. นำประเด็นที่จะทำประชามติไปเผยแพร่ทำความเข้าใจกับประชาชน อย่างไรก็ตาม การเลือกตั้งครั้งนี้ จำนวนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งเบื้องต้นอยู่ที่ 53,052,847 คน แบ่งเป็นชาย 25,454,342 คน เป็นหญิง 27,598,505 คน
ขณะที่การขออนุญาตใช้งบประมาณ ในส่วนของโครงการคนละครึ่งพลัสเฟส 2 กกต. ยืนยันว่า ต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์มาตรา 169 ของรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะการดำเนินโครงการนั้น ก่อให้เกิดการได้เปรียบเสียเปรียบในการแข่งขันเลือกตั้งหรือไม่ แต่หากเป็นการโครงการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ หรือการปูนบำเหน็จให้กับทหารชายแดนเป็นเรื่องที่รัฐบาลจะต้องดำเนินการ และได้ดำเนินการมาก่อนแล้ว ก็สามารถทำต่อไปได้
...