"สีหศักดิ์" ผิดหวังสหรัฐฯ ที่เป็นพันธมิตรเก่าแก่ แต่พูดกระทบความรู้สึกคนไทย ชี้ "ทรัมป์" ไม่เข้าใจสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ให้หยุดยิงคงไม่ได้ ในเมื่อกัมพูชาพูดอย่างทำอีกอย่าง


วันที่ 13 ธันวาคม 2568 นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ แถลงข่าวกรณีที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลว่า มีหลายประเด็นที่คิดว่าสหรัฐฯ ยังไม่เข้าใจสถานการณ์ที่แท้จริง หรืออาจได้รับข้อมูลที่คลาดเคลื่อน ประเด็นแรกที่ฝ่ายไทยรู้สึกไม่สบายใจ คือ ข้อความที่ว่า “เหตุการณ์ที่ทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดและได้รับบาดเจ็บสาหัสเป็นอุบัติเหตุ” ซึ่งขัดแย้งกับข้อเท็จจริงที่ปรากฏชัดเจนว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดจากการที่ฝ่ายกัมพูชาได้วางทุ่นระเบิดใหม่ ไม่ใช่แค่ครั้งเดียวแต่มากเกิน 7 ครั้ง และได้รับการยืนยันจากคณะผู้สังเกตการณ์ของอาเซียนแล้ว

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศบอกต่อว่า นอกจากเหตุการณ์ทุ่นระเบิดแล้ววันนี้ยังเกิดเหตุการณ์ที่ฝ่ายกัมพูชายิงจรวด BM-21 เข้ามายังพื้นที่พลเรือนที่จังหวัดศรีสะเกษ ยืนยันว่านี่ก็ไม่ใช่อุบัติเหตุแต่เป็นความจงใจ อย่างไรก็ตามการโต้ตอบของฝ่ายไทยได้สัดส่วนกับการปฏิบัติทางทหารไม่ได้โต้ตอบเกินกว่าเหตุ

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศกล่าวอีกว่า ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นมิตรประเทศกับสหรัฐฯ และเป็นพันธมิตรทางสนธิสัญญาที่เก่าแก่ที่สุดของสหรัฐฯ ในภูมิภาคนี้ รู้สึกผิดหวังที่ข้อความดังกล่าวกระทบต่อความรู้สึกของคนไทยและประเทศไทย โดยย้ำว่าไทยกับสหรัฐฯ มีความร่วมมือและเป็นพันธมิตรกันมาอย่างยาวนานบนพื้นฐานของผลประโยชน์ร่วมกันทางด้านความมั่นคง

ส่วนกรณีที่นายกรัฐมนตรีกัมพูชาขอให้มีการตรวจสอบเหตุการณ์ปะทะ โดยวิธีทางดาวเทียมเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงนั้น นายสีหศักดิ์กล่าวว่า ไม่มีปัญหาและขอให้ตรวจสอบเรื่องของทุ่นระเบิดด้วยเช่นกัน โดยไทยพร้อมอยู่แล้วและเคยเรียกร้องให้มีคณะตรวจสอบข้อเท็จจริง

...

ส่วนกรณีการเจรจาการค้ากับสหรัฐฯนั้น นายสีหศักดิ์ขอบคุณประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ให้การเจรจาในระดับผู้ปฏิบัติดำเนินต่อไป โดยยืนยันว่า เรื่องการค้าก็เป็นการค้า และสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ไม่ควรนำมาโยงกับเรื่องการเจรจาการค้า

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศยังแสดงความห่วงใยกรณีคนไทยที่ติดอยู่ที่ด่านปอยเปตและอยากกลับเข้ามาฝั่งไทย เนื่องจากไม่มั่นใจในความปลอดภัย ขณะที่ฝ่ายไทยได้ให้ชาวกัมพูชาที่อยากกลับเดินทางกลับไปหมดแล้ว แต่ตอนนี้ปัญหาคือ กัมพูชาไม่ยอมให้คนไทยกลับ ทั้งที่เรื่องนี้เป็นเรื่องมนุษยธรรม และการที่สมเด็จ ฮุน เซ็น ประธานวุฒิสภากัมพูชา โพสต์ข้อความว่าระงับการเดินทางทั้งหมดในการข้ามเขตแดน ถือเป็นเรื่องชัดเจนว่าเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนและมนุษยธรรม ภายใต้กติการะหว่างประเทศ

นายสีหศักดิ์ กล่าวถึงประเด็นการหยุดยิงที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โพสต์ถึงว่า การหยุดยิงไม่ได้เกิดขึ้นง่าย ๆ และไม่ได้เกิดขึ้นจากความปรารถนา แต่ต้องมาจากความพร้อมของทุกฝ่าย โดยการหารือทางโทรศัพท์ระหว่างนายกรัฐมนตรีไทยกับประธานาธิบดีสหรัฐฯ ยังไม่มีการพูดคุยกันเรื่องการหยุดยิง เข้าใจว่าประธานาธิบดีสหรัฐฯ คงมีความคาดหวังที่อยากเห็นการหยุดยิง แต่การหยุดยิงที่ยั่งยืนต้องเกิดขึ้นเมื่อทั้งสองฝ่ายมีความพร้อม และต้องมีการประเมินสถานการณ์และพูดคุยกันระหว่างฝ่ายทหาร การที่ฝ่ายกัมพูชายังยิงอยู่ แต่มาพูดเรื่องหยุดยิง จึงเป็นเรื่องที่ไม่มีความหมาย และเป็นวิธีการพูดอย่างทำอย่าง สร้างสถานการณ์เพื่อความได้เปรียบในเวทีระหว่างประเทศ ซึ่งไทยมีความจำเป็นต้องชี้แจงตอบโต้ในเวทีระหว่างประเทศด้วย