เลขาธิการพรรครักชาติ แถลงเดือดจี้ถาม จีน-สหรัฐฯ จริงใจแก้สงครามชายแดนไทย-กัมพูชา จริงหรือ แปลกใจไม่รู้จริงหรือ ใครเริ่มโจมตีก่อน
วันที่ 13 ธันวาคม 2568 นายฐิติพันธุ์ เกยานนท์ เลขาธิการพรรครักชาติ (Rakchart) แถลงการณ์ภาษาอังกฤษ ตั้งคำถามถึงหลายประเทศชั้นนำ ที่มีเทคโนโลยีระดับโลก แต่กลับตรวจสอบไม่ได้ว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ใครเริ่มโจมตีก่อน พร้อมเรียกร้องให้องค์การสหประชาชาติ (UN) เร่งตรวจสอบกัมพูชา กรณีสร้างบังเกอร์ในพื้นที่มรดกโลกและประเด็นยึดทรัพย์บิตคอยน์กว่า 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ ที่โยงกลุ่มมิจฉาชีพ
นายฐิติพันธุ์ ได้หยิบยกประเด็นความขัดแย้งระหว่างไทยและกัมพูชาขึ้นมาวิพากษ์วิจารณ์อย่างเผ็ดร้อน โดยเปรียบเทียบกับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของมหาอำนาจโลก ในขณะที่ประเทศจีนมีความสามารถส่งดาวเทียมและสร้างสถานีอวกาศถาวรโคจรรอบโลกได้ หรือสหรัฐอเมริกาที่มีรถสำรวจอยู่บนพื้นผิวดาวอังคาร แต่กลับเกิดคำถามที่น่ากังขาว่า เหตุใดด้วยเทคโนโลยีระดับนี้ จึงไม่สามารถระบุได้แน่ชัดว่า “ใครเป็นฝ่ายเปิดฉากยิงก่อน” ในเหตุการณ์ปะทะระหว่างไทยและกัมพูชา
ขณะที่ปมพื้นที่มรดกโลก แถลงการณ์ยังระบุถึงข้อกล่าวหาที่ร้ายแรงว่า กัมพูชาได้ทำการจัดตั้งฐานที่มั่นทางทหารและสร้างบังเกอร์ภายในพื้นที่มรดกโลกของยูเนสโก (UNESCO World Heritage Site) ซึ่งทางพรรครักชาติมองว่าการกระทำดังกล่าวเรียกร้องให้มีการดำเนินการตอบโต้ทันทีจากองค์การสหประชาชาติ (UN)
นายฐิติพันธุ์ ยังมีการเปิดเผยข้อมูล โดยอ้างถึงกรณีที่สหรัฐฯ และสหราชอาณาจักร ได้ทำการยึดทรัพย์สินในรูปแบบบิตคอยน์มูลค่ากว่า 15,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเชื่อมโยงกับกลุ่ม
สแกมเมอร์ในกัมพูชา โดยนายฐิติพันธุ์ ระบุว่า มูลค่าทรัพย์สินที่ถูกยึดนี้ มีจำนวนมหาศาลกว่างบประมาณรายจ่ายประจำปีของประเทศกัมพูชาเสียอีก
...
“มาถึงจุดนี้ เรายังดูไม่ออกกันอีกหรือว่า ใครกันแน่ที่เป็นสแกมเมอร์ที่คอยหลอกลวงชาวโลกว่าตนเองเป็นผู้ถูกกระทำ” เลขาธิการพรรครักชาติกล่าวทิ้งท้ายว่า เรื่องนี้ไม่สามารถถูกเพิกเฉยได้อีกต่อไป และทั่วโลกจำเป็นต้องร่วมมือกันเพื่อต่อต้านภัยคุกคามต่อสังคมมนุษยชาตินี้