“ภราดร ปริศนานันทกุล” เสนอยื่นญัตติด่วน ให้รัฐสภาถกคำถามประชามติครั้งที่ 1 เพื่อส่งต่อ ครม. หลังจบการพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระ 2  ด้าน “จุลพันธ์” แย้งทำเกินจำเป็น ชี้ ครม. ทำได้เลยทันที  

วันที่ 10 ธันวาคม 2568 เวลา 09.20 น. ที่รัฐสภา นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา เป็นประธานการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ครั้งที่ 1 (สมัยวิสามัญ) เป็นพิเศษ โดยมีวาระสำคัญคือการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่..) พ.ศ. ซึ่งคณะกรรมาธิการพิจารณาเสร็จแล้ว

ก่อนการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน ได้หารือ ระบุว่า แม้จะไม่มีการประชุมวิปร่วม แต่ก็มีการประสานงานอย่างไม่เป็นทางการของทุกฝ่าย เพื่อเปิดการประชุมสมัยวิสามัญ ในวันที่ 10-11 ธันวาคม ส่วนถ้าการพิจารณา 2 วัน ไม่จบก็เปิดเป็น สมัยสามัญ ในวันที่ 12 ธันวาคม ซึ่งประธานสามารถนัดประชุมได้ แต่อย่างไรก็ตามเพื่อความมีประสิทธิภาพ ทุกฝ่ายคุยกันว่า และหากวาระ 2 จบเร็ว ก็จะสามารถลงมติในวาระ 3 ได้เร็วขึ้นด้วย โดยอยากแจ้งเพื่อนสมาชิกว่า เป็นการโหวตรายมาตรา ดังนั้นหากอยู่กันจนถึงเที่ยงคืน วันนี้ก็จะพิจารณาได้เยอะ และน่าจะจบในวันพรุ่งนี้ได้

...

ขณะที่ นายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ สส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย ระบุว่า วันนี้พรรคภูมิใจไทย จะยื่นญัตติด่วน เพื่อให้รัฐสภามีมติ เพื่อยื่นไปที่คณะรัฐมนตรี ในการทำประชามติครั้งที่ 1 เพื่อไม่ให้เสียเวลาในการรอลงมติวาระที่ 3 หมายความว่า เมื่อพิจารณาในวาระที่ 2 เสร็จสิ้นแล้ว จะขอให้รัฐสภาร่วมกันพิจารณาญัตติด่วนเพื่อทำคำถามที่ 1 ส่งไปที่รัฐบาล เพื่อให้รัฐบาลทำคำถามประชามติ ครั้งที่ 1 ก่อน ส่วนหลังจากที่ลงมติในวาระที่ 3 เรียบร้อย ซึ่งอาจจะเป็นสิ้นเดือนหน้า หรือ ต้นเดือนมกราคม และประธานอาจจะให้สภา พิจารณาคำถาม เพื่อส่งไปให้รัฐบาลในการทำคำถามประชามติ คำถามที่ 2 ตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งมองว่าสามารถแยกกันได้

ขณะที่นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ สส.เชียงใหม่ และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ระบุว่า ข้อหารือของนายภราดร ตรงกับข้อเรียกร้องของพรรคเพื่อไทย ก่อนหน้านี้ ที่เรียกร้องให้สร้างหลักประกันกับสังคมไทย ด้วยการให้รัฐบาล ส่งคำถามประชามติคำถามที่ 1 ไปยัง กกต. ในทันที เพื่อยืนยันว่า ไม่ว่ากระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่สภากำลังดำเนินการอยู่ จะสะดุดติดขัด หรือเดินหน้า สุดท้ายในวันเลือกตั้ง จะต้องมีคำถามประชามติ คำถามที่ 1 ว่าต้องการให้มีร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่

นายจุลพันธ์ ระบุว่า ที่นายภราดรมาเสนอญัตติด่วนต่อที่ประชุม หลังจบการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระ 2 พรรคเพื่อไทยไม่ขัดข้อง แต่มองว่าเป็นการทำงานเกินความจำเป็นหรือไม่ เพราะอำนาจของคณะรัฐมนตรีมีอยู่แล้ว คณะรัฐมนตรี ควรจะพิจารณาตั้งคำถามประชามติ คำถามที่ 1 เพื่อส่งไปยัง กกต. ได้เลย เนื่องจาก ใน พ.ร.บ.ประชามติได้เปิดช่องให้อำนาจ ครม.ไว้แล้ว ไม่ควรผลักภาระมาที่รัฐสภา

ขณะที่นายภราดร ชี้แจงว่า รัฐบาลได้สอบถามไปยังกฤษฎีกา และได้ให้คำตอบมาที่คณะรัฐมนตรี ว่าอาจจะขัดคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญได้ แม้ พ.ร.บ.ประชามติจะให้อำนาจคณะรัฐมนตรีทำได้ ดังนั้นเมื่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญเริ่มต้นที่รัฐสภา ก็ควรให้สภาเสนอคำถามต่อคณะรัฐมนตรี เพื่อให้คณะรัฐมนตรีดำเนินการต่อไป และส่งคำถามให้ กกต. เพื่อให้เกิดความรอบคอบ ถูกต้องกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ

ด้านนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา แจ้งว่าจะรับไว้พิจารณา และขอให้วิปได้หารือกัน จากนั้นได้เข้าสู่วาระการพิจารณาวาระร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม วาระ 2