ลุ้นต่อวาระสำคัญ ประชุมร่วมรัฐสภา วาระ 2 ร่างแก้รัฐธรรมนูญ ยังต้องจับตาจะจบภายใน 2 วันหรือไม่ เพื่อไทย เดินเกมเตรียมขอสงวนและขอแปรญัตติ ที่มา สสร. และสูตร 20 หยิบ 1 หวั่นเกิดรัฐสภาครอบงำ


วันที่ 10 ธันวาคม 2568 ในการประชุมร่วมรัฐสภาสมัยวิสามัญ เพื่อพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ..) พุทธศักราช .... ในวาระ 2 ในวันที่ 10-11 ธันวาคม 2568 นั้น นายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย (ภท.) ในฐานะประธานวิปรัฐบาล ระบุว่า ทางที่ประชุมวิปรัฐบาล มีมติว่าในการประชุมวันที่ 10 ธันวาคม 2568 จะเริ่มในเวลา 09.00 – 24.00 น. ส่วนวันที่ 11 ธันวาคม 2568 จะเริ่มประชุมเวลา 09:00 – ก่อนเที่ยงคืน โดยลงมติ “เห็นด้วย” ทั้ง 2 วัน และหากไม่จบก็จะพิจารณาต่อในวันที่ 12 ธันวาคม 2568 เพื่อให้การพิจารณาจบ วาระ 2


ขณะที่นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมการพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวว่า การพิจารณาในวาระ 2 หากจบการพิจารณาวันที่ 12 ธันวาคม ไทม์ไลน์วาระ 3 จะอยู่วันที่ 29 ธันวาคม แต่หากจบวันที่ 11 ธันวาคม วันที่ 26 หรือ 27 ธันวาคม ก็ยังเป็นไปได้อยู่ ต่อให้จะจบวันที่ 12 ธันวาคม ก็ยังไม่กระทบกับไทม์ไลน์


ด้านนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา กล่าวว่าจะพิจารณาจบภายใน 2 วันได้หรือไม่ การพิจารณาวาระ 2 ไม่สามารถกำหนดตายตัวได้ว่าจะเป็นกี่วัน เพราะขึ้นอยู่กับการสงวนความเห็น การแปรญัตติของสมาชิก และการชี้แจงของคณะกรรมาธิการ หากชี้แจงและสมาชิกยอมรับได้หรือไม่ติดใจก็จะผ่านไปเร็ว แต่ถ้าติดใจก็จะให้อภิปรายได้ตามสมควร วันนี้ประธานกรรมาธิการก็จะเริ่มชี้แจงก่อนว่าแตกต่างจากวาระแรกมีอะไรบ้าง จึงจะเริ่มให้สมาชิกอภิปราย ซึ่งสมาชิกอาจจะเห็นชอบที่กรรมาธิการแก้ไขก็ได้ หากไม่เห็นชอบก็ต้องมีการลงมติ ส่วนการลงมติในวาระ 3 ระเบียบระบุว่าต้องทิ้งระยะเวลาอย่างน้อย 15 วัน ซึ่งเมื่อนับวันลงมติแล้วจะลงวันที่ 26 ธันวาคม ซึ่งไม่ใช่วันประชุมสภาฯ ถ้าไม่มีปัญหาอะไรน่าจะลงมติวาระ 3 ในวันจันทร์ที่ 29 ธันวาคมได้

...


ส่วนทางด้านพรรคเพื่อไทย ในฐานะคณะกรรมาธิการเสียงข้างน้อย เตรียมขอสงวน และขอแปรญัตติในประเด็นสำคัญ 2 ประการคือ 1.ควรให้มีการใช้ระบบ สสร. เพราะจะทำให้เกิดสภาเฉพาะขึ้นมาพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ และสามารถกลั่นกรองร่างรัฐธรรมนูญก่อนนำเสนอสู่รัฐสภาได้ ส่วนประเด็นที่ 2 การใช้สูตร 20 หยิบ 1 นั้น อาจจะนำไปสู่การได้มาซึ่งกรรมาธิการที่เลือกข้าง

พรรคเพื่อไทยจึงสงวนคำแปรญัตติว่า ให้สองกรรมาธิการนี้ มีจำนวน 35 คนเท่าเดิม แต่ในจำนวนนี้ให้มี 10 คนที่มาจากการแต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิในสาขาวิชาที่เกี่ยวข้อง และอีก 25 คนที่เหลือมาจากการใช้สูตรคำนวณแบบ 28 หยิบ 1 แทน เพื่อให้เกิดการถ่วงดุลในการทำหน้าที่ของกรรมาธิการ และจะทำให้กรรมาธิการทั้งสองชุดนี้มีความหลากหลายมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมวิป 3 ฝ่าย ไม่ได้มีการแบ่งเวลาอภิปราย แต่จะเน้นเป็นการพูดคุยความเข้าใจ เพราะเปิดประชุมสมัยวิสามัญ 2 วัน สามารถขยายไปวันที่ 12 ธ.ค. ในการประชุมสมัยสามัญได้ แต่ทุกฝ่ายยังเห็นตรงกันต้องการให้จบภายใน 2 วัน