“นายกฯ หนู” ลงพื้นที่ จ.สตูล มอบถุงยังชีพผู้ประสบภัยน้ำท่วม ชื่นชมคนสตูลไม่ทิ้งกัน น้อมรับเป็นความผิดรัฐบาล หนีไม่ได้ ขอให้ประชาชนให้อภัยพวกเราด้วย เผย เตรียมแผนไม่ให้เกิดขึ้นซ้ำซากอีก 


เมื่อเวลา 14.15 น. วันที่ 6 ธันวาคม 2568 นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และคณะ เดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์มายังค่ายสมันตรัฐบุรินทร์ จังหวัดสตูล จากนั้นนายกรัฐมนตรีนั่งรถยนต์โตโยต้า อัลพาร์ด สีดำ ทะเบียน กง 3333 สตูล เดินทางต่อมายังตลาดสดเทศบาลเมืองสตูล และชุมชนชนาธิป เพื่อเยี่ยมเยียนผู้ประสบอุทกภัยและมอบถุงยังชีพให้กับประชาชนจำนวน 200 ถุง

เมื่อนายกรัฐมนตรีเดินทางมาถึงตลาดสดเทศบาลเมืองสตูล ได้เดินดูร้านสตูลค้าข้าว ซึ่งมีโกดังเก็บข้าวและได้รับความเสียหายจนข้าวเน่าเสีย นอกจากนี้ยังมีประธานหมู่บ้าน เจ้าของกิจการโรงแรม และประชาชนร้องเรียน เรื่องประตูระบายน้ำคลองมำบังที่อยู่ใกล้กับตลาดสด ซึ่งขวางทางน้ำ โดยนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสตูล ได้พานายกรัฐมนตรีไปดูประตูระบายน้ำดังกล่าว พร้อมบอกว่าไม่มีประโยชน์ ทำให้น้ำท่วม ต้องรื้อทิ้ง โดยนายอนุทิน กล่าวว่า เทศบาลต้องไปปรึกษากันว่ามีประโยชน์หรือไม่ ถ้าไม่มีประโยชน์ก็เอาออก แต่ต้องไปทำประชาพิจารณ์ก่อน

จากนั้นนายกรัฐมนตรีกล่าวกับประชาชนที่มารอต้อนรับว่า เมื่อสักครู่นายก อบจ.สตูล ได้พาไปดูประตูน้ำคลองมำบัง จะให้นายก อบจ. ไปทำประชาพิจารณ์ แล้วพี่น้องประชาชนก็ไปให้ความเห็นว่าถ้าไม่เอาก็จะรื้อทิ้ง แต่เราต้องฟังด้วยว่ามันมีประโยชน์อะไรหรือไม่ ตนขอชื่นชมและเป็นกำลังใจในความอดทนของประชาชนที่เจอเรื่องอุทกภัยน้ำท่วม แต่เราก็จะไม่ทิ้งกัน ที่ จ.สตูล ประชาชนก็มีบุญคุณกับเรามากมาย เลือก สส.ให้ตน 2 คน เขาต้องทำประโยชน์ให้กับประชาชน โดยให้เขามารับฟังปัญหาต่างๆ วันนี้ได้มาเห็นประชาชนที่มีขวัญกำลังใจที่ดีอยู่

...



นายอนุทิน กล่าวต่อไปว่า เรื่องที่มันผ่านไปแล้วก็ป่วยการที่จะไปคิดถึง เราต้องมองไปข้างหน้า เดี๋ยวรัฐบาลจะมีแผนดำเนินการเพื่อการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ซ้ำซาก รัฐบาลก็ไม่ไหวที่จะทนเห็นสภาพแบบนี้ทุกปี จ่ายค่าทำโครงการสร้างประตูน้ำ แก้มลิง เพื่อป้องกันน้ำ แต่เผลอๆ จ่ายเงินค่าเยียวยาให้กับประชาชนมากกว่าพวกโครงการป้องกันน้ำเสียอีก ตนคิดว่าเมื่อทุกคนได้เห็นในสภาพนี้แล้วก็จะเร่งดำเนินการให้มีโครงการที่จะทำให้น้ำไม่ท่วมอีก วันนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูลได้ประกาศภัยพิบัติแล้ว ขอให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบน้ำท่วมลงทะเบียนเพื่อรับเงินเยียวยา 9,000 บาทเบื้องต้นก่อน โดยจะมีเงินเยียวยาอย่างอื่นตามมาอีก ก็ขอให้ไปดำเนินการให้เรียบร้อย

ต่อมานายกรัฐมนตรีกล่าวอีกว่า ได้ลงทะเบียนโครงการคนละครึ่งพลัสหรือไม่ เดี๋ยวมีคนละครึ่งพลัส เฟส 2 ตนเข้าใจความเดือดร้อนของประชาชนดี ก็จะเร่งดำเนินการให้เรียบร้อย “ผมไม่ทราบจะพูดอย่างไร คนไหนรู้สึกขุ่นข้องหมองใจ ขัดเคืองใจ รู้สึกว่าเป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้น ผมในฐานะหัวหน้ารัฐบาลก็ต้องบอกว่าเป็นความผิดของรัฐบาล เพราะเมื่อประชาชนเดือดร้อนเมื่อไหร่ รัฐบาลหนีความผิดไม่ได้ ก็ขอให้ประชาชนให้อภัยพวกเราด้วย เราก็จะตั้งใจทำงานดำเนินการโครงการทั้งหลายเพื่อไม่ให้ประชาชนเดือดร้อนอีก ขอบคุณที่มาพบกันในวันนี้ ก็ได้นำเอาข้าวของยังชีพมาฝากทุกท่านด้วย แต่อย่าลืมไปลงทะเบียนรับเงินเยียวยาให้เรียบร้อย ขอให้ทุกคนโชคดีและขอให้สุขภาพแข็งแรง” เมื่อกล่าวเสร็จนายกรัฐมนตรีได้มอบถุงยังชีพให้กับประชาชน เดินให้กำลังใจพ่อค้าแม่ค้า พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรียังได้อุดหนุนขนมตุ๊บตั๊บ แล้วนำมาแจกให้กับสื่อมวลชนและคณะที่ร่วมติดตามลงพื้นที่ด้วย


ต่อมาเวลา 15.15 น. ที่โรงเรียนบ้านคลองขุด จ.สตูล นายอนุทิน พร้อมคณะ ลงพื้นที่โรงเรียนบ้านคลองขุด ต.คลองขุด อ.เมือง จ.สตูล มอบถุงยังชีพ 800 ชุด ให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย นายอนุทิน กล่าวว่า วันนี้มึนเพราะเป็นหวัด รับประทานยาแก้หวัดมา อาจจะจำชื่อตำบลผิดไปบ้าง แต่จำพี่น้องจังหวัดสตูลได้ทุกคน เพราะคนสตูลมีบุญคุณกับตนที่ให้ สส. ตนและคณะได้ตรวจเยี่ยมพื้นที่ เนื่องจากทราบว่ามีเหตุการณ์น้ำท่วม โชคดีที่สตูลระบายน้ำได้เร็วกว่า อ.หาดใหญ่ แต่ก็ได้เห็นถึงความเสียหาย จะหาวิธีที่เร่งช่วยเหลือเยียวยาให้เร็วที่สุด ทั้งเงินที่นำมาให้ยืมเพื่อฟื้นฟูกิจการ เงินที่จะไปซ่อมแซมบ้านเรือน 

ตอนนี้ตนเป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว ตนมีความตั้งใจอย่างเต็มที่ที่จะเข้ามาแก้ไขปัญหาในระยะยาวให้กับประชาชน สมัยก่อนเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พยายามที่จะดูแลสวัสดิภาพของ อสม. ในรัฐบาลที่แล้วตนเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ก็เห็นความทุกข์ความสุขของประชาชน วันนี้ตนมาเป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว จะใช้ประสบการณ์จากที่เป็นรัฐมนตรีหลายกระทรวง แก้ปัญหาของประชาชน และสนับสนุนทั้งโครงการต่างๆ การลงทุนเพื่อให้เกิดความสะดวกและความปลอดภัยของประชาชน ตนก็มีหน้าที่ทำให้มันเกิดขึ้นโดยเร็ว


นายอนุทิน กล่าวว่า ถ้าจะถามว่าใช้เงินมากไหมในการสร้างเขื่อนป้องกันน้ำ ก็มีค่าเท่ากันเพราะมันต้องใช้ เผลอๆ ใช้เงินน้อยกว่าที่ต้องเอาเงินมาเยียวยาผลกระทบจากอุทกภัย ประชาชนได้คนละ 9,000 บาท แต่เมื่อเทียบกับความสูญเสียที่ได้เจอ ซึ่งตนเจอใครก็บอกเติม 0 อีก 2 ตัวก็ยังไม่คุ้ม ขอให้เชื่อมั่นว่าในพื้นที่จังหวัดสตูล มี สส. ที่เข้มแข็งอยู่แล้ว สามารถที่จะปกป้องงบประมาณต่างๆ เพื่อให้เป็นประโยชน์กับประชาชนในจังหวัดสตูล และทำให้มันเกิดขึ้นได้ ส่วนโครงการผนังกั้นน้ำ ทราบว่าถูกบรรจุในงบประมาณปี 2570 แล้ว 

วันนี้มาเพื่อให้กำลังใจ ที่สตูลคงไม่มีอะไรหนักหนาไปมากกว่านี้แล้ว นอกจากฝนจะตกอีก ซึ่งจะมีการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุขึ้นอีก และนำของมาเยี่ยม ขอให้มั่นใจว่าเราจะไม่มีวันทอดทิ้งกัน คนสตูลให้ผู้แทนยกจังหวัดกลับพรรคที่ตนเป็นหัวหน้าพรรค ต้องถือว่ามีความผูกพัน มีพันธะที่จะต้องรับผิดชอบ คุณภาพชีวิตของประชาชนชาวสตูลให้มากที่สุด ขอให้มีกำลังใจ ขอให้มีความสุขในช่วงสิ้นปี สิ่งเลวร้าย ก็ขอให้มันผ่านพ้นไปและขอให้ทุกคนช่วยกัน เพื่อทำให้ความทุกข์ของประชาชนมลายหายสิ้นไปให้ได้มากที่สุด