“อรรถกร” รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา โอดรับดราม่า น้อมรับความผิดพลาดนำไปแก้ไข มองไม่ได้ถูกวางงานจากรัฐบาลก่อน จ่อคุยผู้รับผิดชอบปมใช้โปสเตอร์ AI ย้ำ พิธีเปิดซีเกมส์ 2025 ทำได้ดีแน่นอน


วันที่ 5 ธันวาคม 2568 นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ให้สัมภาษณ์ที่ท้องสนามหลวง ถึงกรณีดราม่าการจัดการแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ประเทศไทยไม่มีความพร้อม โดยก่อนการให้สัมภาษณ์ นายอรรถกร ตัดพ้อว่า จริงๆ อยากจะเป็นคนอยู่เงียบๆ ไม่ค่อยมีใครรู้จัก แต่ 2-3 วันนี้มีคนกล่าวถึงตนเยอะเลย ก่อนจะกล่าวถึงความพร้อมซีเกมส์ที่หลายคนมีข้อกังวลกระทบภาพลักษณ์ของประเทศไทย ว่า ตนเข้ามาและเลือกทางที่ดีที่สุดที่จะผลักดันให้เกิดการจัดและเป็นเจ้าภาพซีเกมส์ได้

ส่วนกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าปัญหาเกิดจากการวางงานของรัฐบาลที่แล้ว นายอรรถกร ระบุ ตนคิดว่าไม่ได้เป็นการวางงาน ตั้งแต่วันที่ตนรับตำแหน่ง หลายอย่างยังไม่ได้เกิดขึ้น จนทำให้ต้องมีการไล่ดูในแต่ละส่วน แต่ละภารกิจ ว่าถ้าไม่เกิดขึ้นจะต้องเดินหน้าอย่างไร ใครจะต้องรับผิดชอบ และตนเชื่อว่าทุกมิติก็ได้ทำแล้ว แต่ก็เกิดความผิดพลาดในส่วนของบุคคลที่ไม่ควรจะเกิดขึ้น ก็ต้องยอมรับ

...

ทางด้านประเด็นโปสเตอร์ AI ที่ถูกมองว่าเป็นการด้อยค่านักออกแบบนั้น นายอรรถกร กล่าวว่า ตนได้เห็นแล้ว กำลังดูว่าใครเป็นคนรับผิดชอบ ใครเป็นคนรับงานไป และคงให้ความเห็นประเมินว่าคนที่รับงานในลักษณะนี้ควรต้องประเมินตัวเองในการที่จะทำงานร่วมกับภาครัฐต่อไป

ผู้สื่อข่าวถามต่อ มั่นใจหรือไม่ว่าพิธีเปิดจะกอบกู้ภาพลักษณ์ของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้ นายอรรถกร ตอบว่า พิธีเปิดที่จะทำออกมา ทำได้ดี ระหว่างนี้ก็คงจะมีปัญหาเกิดขึ้น เพราะ 2-3 วันที่ผ่านมาทุกอย่างโจมตีมาที่นี่คนเดียวหรือเกือบจะคนเดียวก็ว่าได้ มันอาจจะดูผิดธรรมชาติไปนิดหนึ่ง แต่ทุกคำติ ทุกข้อกังวล จะนำไปใช้ต่อการบริหารจัดการในการเป็นเจ้าภาพและการจัดแข่งขันกีฬาซีเกมส์

เมื่อถามถึงเรื่องสถานที่การแข่งขันที่มีปัญหา ทั้งไฟสนาม และการเปิดเพลงชาติ นายอรรถกร เผยว่า จะนำไปปรับปรุงแก้ไขอย่างถูกต้อง มันหลายประเด็น เรื่องเพลงชาติที่ไม่เปิด เมื่อวาน (4 ธันวาคม 2568) ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทยได้ชี้แจงไปแล้ว ในฐานะเจ้าภาพ ในฐานะผู้จัด ก็ได้แสดงความเสียใจไปยังประเทศเพื่อนบ้านทั้ง 2 ประเทศที่เกิดความผิดพลาดขึ้น หลังจากนั้นก็มีการเรียกผู้บริหารและผู้ที่ขับเคลื่อนเรื่องนี้ไปทำความเข้าใจ รวมถึงทุกสมาคมที่จัดการแข่งขัน ว่า เรื่องลักษณะนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก เป็นการทำงานร่วมกันระหว่างการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) กับผู้รับผิดชอบในการจัดการแข่งขัน.