“อนุทิน” ลั่น “รู้จักผมน้อยไป” หลังถูกถามภาพร่วมเฟรม “เบน สมิธ” เป็นสาเหตุที่รัฐบาลไม่กล้าปราบปรามหรือไม่ ย้อนถามจำไม่ได้หรือทำไมไม่ได้สัญชาติ รู้ตัวคนปล่อยภาพ รับเคยเจอ 5-6 ครั้ง


วันที่ 4 ธันวาคม 2568 นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ที่ทำเนียบรัฐบาล ถึงกรณีมีภาพหลุดร่วมเฟรมกับ นายเบนจามิน เมาเออร์เบอร์เกอร์ หรือ เบน สมิธ ว่า ทุกคนก็เห็นอยู่แล้วว่าภาพถ่ายเมื่อไหร่ ที่สำคัญที่สุดคือเมื่อวาน (3 ธันวาคม 2568) ที่ตนไปแถลงข่าว ผู้สื่อข่าวก็ถามว่าใครมีเส้นใครมีสาย แต่สุดท้ายก็ตามกฎหมายหมดทุกอย่าง ส่วนคำถามว่ารู้จักกับ นายเบน สมิธ เป็นการส่วนตัวหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า “รู้จักแต่ไม่สนิท” พร้อมกับย้อนถามว่า “ปีนั้นปีอะไร นั่นแหละแค่เจอครั้งแรก”

ผู้สื่อข่าวถามต่อเป็นเกมการเมืองหรือไม่ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า แล้วแต่คิด โดยปกติตนไม่ได้ติดต่อมีธุรกิจธุรกรรมอะไรด้วยอยู่แล้ว พร้อมย้อนถามสื่ออีกครั้งว่า “จำไม่ได้หรือว่าทำไมเขาถึงไม่ได้สัญชาติ” เมื่อถามว่าการโพสต์ภาพครั้งนี้ถือเป็นการโจมตีรัฐบาลหรือไม่ที่ไม่ให้สัญชาติไทย นายกรัฐมนตรี ตอบว่า “เขาว่าเป็นมูลเหตุ” พร้อมกับหัวเราะ

ส่วนคำถามว่าเป็นมูลเหตุที่ทำให้โดนปลดจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี ตอบว่า “ใช่ หนึ่งในข้อหาที่ผมโดนออกจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย แต่ไม่ใช่การปลดออกจากรัฐบาล แต่ให้ไปเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขแทน แต่ผมไม่เอา และขอถอนตัวออกจากรัฐบาล ต้องพูดกันให้แฟร์ๆ”

ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า พรรคภูมิใจไทยไม่ได้โดนปลดจากรัฐบาลสมัยที่แล้ว ขอให้สื่อนำเสนอให้ชัดเจน เพียงแต่ได้รับการขอให้ออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ไปเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งพรรคภูมิใจไทยก็ปฏิเสธ ส่วนจะเป็นเกมการเมืองพากันดึงให้ลงเหวกันทั้งหมดหรือไม่ นายกรัฐมนตรี เผยว่า เราต้องคิดวิเคราะห์ และแยกเรื่องให้ถูก ในคำถามว่ารู้หรือไม่ใครเป็นคนปล่อยภาพ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า “รู้หมดแหละ นักข่าวก็รู้ ใครก็รู้ทั้งนั้น”

...

สำหรับเรื่องการขยายผลแล้วออกหมายจับสแกมเมอร์ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า เรื่องหมายจับต้องไปถามตำรวจ แต่ในแนวทางการสืบสวน เส้นเงินถึงใครก็ต้องดำเนินการไปตามนั้น ตนถึงบอกว่าปิดชื่อ ถือพฤติกรรม เมื่อถามอีกว่าตอนนั้นที่นายเบน สมิธ ได้มาทำธุรกิจอะไร นายกรัฐมนตรี บอกว่า ตอนที่ตนคุยกับเขาก็เป็นความสัมพันธ์ที่รู้จักกันในฐานะเพื่อนของเพื่อนของเพื่อน หากถามว่ารู้จักหรือไม่ ตนรู้จัก เจอกันตามงานก็ทักทาย

ผู้สื่อข่าวถามว่าเจอกันกี่ครั้ง นายกรัฐมนตรี หัวเราะแล้วร้องอุทานว่า “โห ถามอะไรกันขนาดนั้น” เมื่อถามย้ำเคยเจอนายเบน สมิธ กี่ครั้ง นายกรัฐมนตรี ถามกลับว่า เจอกี่ครั้งหมายความว่าอย่างไร เขาก็มีแวดวงมีอะไรอยู่ เจอในงานประมาณ 5-6 ครั้ง ทางด้านคำถามว่า นายเบน สมิธ รู้จักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองเราดีใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี หัวเราะก่อนบอกต่อไปว่า “พวกคุณก็เห็นรูปแล้ว จะมาเอาเรื่องอะไรจากรูปที่ถ่ายเป็น 10 ปีที่แล้ว”

ในช่วงท้ายผู้สื่อข่าวถามย้ำอีกครั้งว่านี่อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้รัฐบาลไม่กล้าปราบปรามพวกของ นายเบน สมิธ อย่างจริงจังใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี ตอบกลับว่า “ผมนะหรือไม่กล้าแตะ ปัดโธ่ You know me little go รู้หรือเปล่าแปลว่าอะไร คุณรู้จักผมน้อยไป” ก่อนเดินเข้าประชุมทันที