ในหลวง พระราชทานเงินส่วนพระองค์ ช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิตเหตุอุทกภัย รายละ 2 หมื่นบาท ด้าน “นายกฯ” ย้ำ ต้องเร่งฟื้นฟูให้ประชาชนพลิกฟื้นชีวิตกลับมาโดยเร็ว
วันที่ 1 ธันวาคม 2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจ ครั้งที่ 6/2568 โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวตอนหนึ่งในการประชุมว่า อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ถือเป็นเมืองเศรษฐกิจ ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้มีผลกระทบอย่างรุนแรงมากในเรื่องของเศรษฐกิจต่อทั้งตัวจังหวัด และผู้ประกอบการ รวมถึงประชาชนทุกคน โดยเฉพาะผลกระทบของการเสริมสร้างรายได้ ตนจึงได้เชิญผู้ที่เกี่ยวข้องทุกคน มาร่วมประชุมกับทางคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจในวันนี้ด้วย ซึ่งตลอดช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา จนถึงเมื่อวานนี้ได้นำองค์กรทั้งภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ ตลอดจนสมาคมทางด้านธุรกิจ และอุตสาหกรรมต่างๆ ลงไปในพื้นที่เพื่อให้ทุกคนได้เห็นถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นว่าจะต้องเร่งฟื้นฟูให้ส่วนที่เสียหาย ได้กลับมามีประสิทธิภาพในการเสริมสร้างรายได้ และทำให้โอกาสต่างๆ กลับคืนมาต่อไป
...
นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ที่เห็นได้อย่างชัดเจน การที่ไทยเป็นเจ้าภาพการแข่งขันซีเกมส์กลางสัปดาห์หน้า ซึ่งมีการแข่งขันกีฬามากมาย ก็ได้มีการจัดเตรียมไว้ที่จังหวัดสงขลา มีกองเชียร์ มีผู้ที่เกี่ยวข้องมากมาย ต้องเดินทางเข้าจังหวัดสงขลา แต่ก็ต้องยกเลิกไปทั้งหมด เพราะสภาพที่เกิดขึ้นทำให้ทุกอย่างไม่มีความพร้อมในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ในส่วนที่จังหวัดสงขลาต้องรับผิดชอบ
นอกจากนี้ เรื่องการฟื้นฟูตัวจังหวัด การล้างบ้านล้างเมือง และนำประชาชนกลับเข้าที่พักอาศัยให้เร็วที่สุด ขณะนี้ผู้ที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นฝ่ายพลเรือน ฝ่ายกองทัพ ได้ดำเนินการอย่างเต็มที่ มีหลายคนอยู่ในพื้นที่ตามคำสั่งที่ได้มอบหมายให้ลงไปกำกับดูแลอย่างใกล้ชิด อย่างที่รองนายกรัฐมนตรี 2 คนได้อยู่ในพื้นที่ นายโสภณ ซารัมย์ รองนายกรัฐมนตรี อยู่ที่จังหวัดยะลา และร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ถูกสั่งการให้อยู่ที่จังหวัดสงขลา ส่วนทางแม่ทัพภาคที่ 4 ก็อยู่ในพื้นที่ด้วย ได้อำนวยการในการฟื้นฟูนำกำลังทหารมาฟื้นฟู และช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัย
นายกรัฐมนตรี ระบุว่า เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้เชิญพระราชกระแส เนื่องด้วยเหตุอุทกภัย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงห่วงใยราษฎรที่ประสบเหตุ โดยเฉพาะผู้ที่เสียชีวิต ทรงรับผู้เสียชีวิตไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ พร้อมทั้งให้กำลังใจกับบุคลากรทางการแพทย์ จิตอาสา
นายกรัฐมนตรี ระบุว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานเงินส่วนพระองค์ จำนวน 100 ล้านบาท ให้แก่โรงพยาบาลหาดใหญ่เพื่อซื้อเครื่องมือทางการแพทย์ทดแทนที่เสียหาย และพระราชทานโดรนสำหรับการค้นหา ส่งอาหาร ให้แก่กองทัพ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อช่วยเหลือประชาชน นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้
ดังนั้น ตนเองขอแจ้งว่า ขอให้ดำเนินการรับส่งผู้เสียชีวิตทุกรายในพระบรมราชานุเคราะห์ หมายความว่า ในส่วนชาวพุทธจะมีการพระราชทานเพลิงศพทุกราย ส่วนผู้เสียชีวิตที่นับถือศาสนาอิสลาม จะมีการพระราชทานดินฝังศพ ตามประเพณีและวัฒนธรรม ดังนั้นขออนุญาตแจ้งผ่านกระทรวงมหาดไทยให้แจ้งผู้ว่าราชการจังหวัด กรณีผู้เสียชีวิตได้ดำเนินการอย่างเคร่งครัดอย่าให้ตกหล่น
ขณะเดียวกัน ได้รับแจ้งว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานเงินช่วยเหลือส่วนพระองค์ แก่ครอบครัวผู้เสียชีวิต รายละ 20,000 บาทด้วยเช่นกัน โดยให้จัดทำรายงานเสนอราชเลขานุการในพระองค์ เพื่อกราบบังคมทูลให้ทรงทราบ ว่าได้ดำเนินการมากน้อยเพียงใด
นายกรัฐมนตรี ระบุว่า สถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้เริ่มคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้นมากแล้ว น้ำลดลงแล้ว เกือบ 100% แต่ยังมีพื้นที่บางจุดที่ยังมีน้ำท่วมขังซึ่งจะมีการเร่งดูแลฟื้นฟูสภาพในทุกวัน วันนี้มีเรื่องต่างๆ มากมายที่ต้องเร่งฟื้นฟูเยียวยา โดยใช้มติของที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจแห่งนี้ ให้ดำเนินการให้ความช่วยเหลือโดยเร็วเพื่อนำเสนอให้ได้รับความเห็นชอบจากทางที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ประจำสัปดาห์ในวันพรุ่งนี้ (2 ธ.ค.) โดยตอนนี้ขอเน้นไปที่การช่วยเหลือฟื้นฟู ให้ประชาชนได้พลิกฟื้นความเลวร้ายต่างๆ ให้กลับมาสู่การมีโอกาสให้มากที่สุดโดยเร็ว ไม่เพียงแค่มิติเศรษฐกิจเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงการพัฒนาสาธารณูปโภคพื้นฐาน ให้ปกติที่สุด การลงไปในพื้นที่ก็เห็นสภาพว่าโกลาหลมาก แต่ได้รับการยืนยันจากคนในพื้นที่จะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด
นอกจากนี้ต้องคำนึงถึงด้านสุขภาพ ทั้งสุขภาพจิต สุขภาพกาย โดยกระทรวงสาธารณสุขเร่งดำเนินการในเรื่องนี้เพื่อทำให้สภาพร่างกายของผู้ประสบภัยได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด คนที่สูญเสียบ้านเรือน ธุรกิจ รายได้ ครอบครัว จะต้องให้การดูแลอย่างใกล้ชิดมากๆ ตอนที่ย้ายหนีน้ำ ต้องจากบ้านแต่พอน้ำลดกลับมาดูบ้านก็เห็นสภาพบ้านทำให้เกิดความหดหู่ และความซึมเศร้า อาจทำให้พัฒนาไปสู่ความซึมเศร้าทางจิตใจ ดังนั้นต้องให้ความสนใจอย่างใกล้ชิด นำนักจิตวิทยาต่างๆ ลงไปในพื้นที่ด้วย