นายกฯ ประชุมเยียวยาช่วยผู้ประกอบการ-นักธุรกิจ-คนหาดใหญ่-จังหวัดภาคใต้ประสบภัยน้ำท่วม เตรียมมาตรการ 3 ระยะ เร่งประสานบริษัทประกันจ่ายชดเชยเร็วที่สุด ลั่น รอช้าไม่ได้ บ่ายนี้จ่อบินลงหาดใหญ่
วันที่ 27 พฤศจิกายน 2568 นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นประธานการประชุมบูรณาการการช่วยเหลือ เยียวยา และฟื้นฟูผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้ ที่กระทรวงการคลัง โดยมี นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายไชยชนก ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นางตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง ผู้บริหารกระทรวงการคลัง และตัวแทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม โดยก่อนการประชุมนายกรัฐมนตรีได้เยี่ยมจุดรับบริจาคสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ ที่ชั้น 1 ภายในกระทรวงการคลัง พร้อมขอบคุณทุกภาคส่วนที่มาร่วมบริจาคสิ่งของช่วยผู้ประสบอุทกภัย
นายอนุทิน กล่าวเปิดประชุมว่า ขอบคุณกระทรวงการคลังในการเป็นเจ้าภาพร่วมประชุมหารือมาตรการให้ความช่วยเหลือเพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้ประกอบการและภาคธุรกิจในพื้นที่จากการได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัย ตนและคณะได้ติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง โดยการลงพื้นที่ได้พบกับผู้ประสบภัยน้ำท่วม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งสถานการณ์น้ำท่วมมีบริเวณกว้างมากครอบคลุมในเขต อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ถือเป็นจุดวิกฤติที่สุด และเป็นพื้นที่เศรษฐกิจ มีความจำเป็นต้องเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาทั้งปัญหาเฉพาะหน้า และปัญหาในช่วงฟื้นฟู รวมถึงการหาวิธีช่วยเหลือเยียวยาให้กับผู้ประสบภัย ให้กลับคืนมาสู่สภาวะปกติโดยเร็วที่สุด
...
ทั้งนี้ ตนได้ลงไปในพื้นที่และมอบข้อสั่งการอย่างชัดเจนว่า ความปลอดภัยของประชาชนเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด และความเป็นอยู่ ตลอดจนขณะนี้ทางรัฐบาลได้ประกาศให้ใช้พระราชกำหนดสถานการณ์ฉุกเฉิน (พ.ร.ก.ฉุกเฉิน) ในพื้นที่ ที่จะทำให้การบูรณาการข้อสั่งการต่างๆ และความร่วมมือเป็นไปด้วยความสะดวกและรวดเร็ว
ขณะเดียวกัน ขอขอบคุณกระทรวงการคลังที่มีการยกเว้นกฎระเบียบต่างๆ เพื่อให้เจ้าหน้าที่และข้าราชการที่อยู่ในพื้นที่ได้ดำเนินการหามาตรการจัดซื้อจัดหาจัดจ้างสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่สามารถนำไปช่วยเหลือพี่น้องประชาชนได้ด้วยความรวดเร็ว ซึ่งสถานการณ์ตอนนี้ตนขอให้ นายเอกนิติ หารือร่วมกับกระทรวงแรงงาน กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เร่งบูรณาการยกระดับประสิทธิภาพการแก้ไขปัญหาวิกฤติอุทกภัย ใน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ตลอดจนเขตจังหวัดในภาคใต้ที่ประสบปัญหาน้ำท่วม “เราจะรอช้าไม่ได้ ทุกวินาทีมีความหมายกับพี่น้องประชาชนที่นั่น”
จากนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อไปว่า การประชุมในวันนี้เพื่อเตรียมมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจและการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนและผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบให้สามารถกลับมาดำรงชีวิตและฟื้นฟูให้กลับมาอยู่ในสภาพปกติได้อย่างเร็วที่สุด เราจึงต้องบูรณาการการช่วยเหลือ การเยียวยา และการฟื้นฟู รัฐบาลได้เชื่อมโยงเครือข่ายทรัพยากร และการสื่อสารให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อให้การทำงานสอดคล้องกับสถานการณ์ในพื้นที่ ขณะนี้เราก็ได้ตั้งศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินอุทกภัย (ศป.กฉ.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางในการประสานงานความร่วมมือต่างๆ และติดต่อสื่อสารโดยตรงกับส่วนหน้าที่อยู่ที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา
ดังนั้น วันนี้จึงขอให้ที่ประชุมชี้แนะแนวทางและกระทรวงการคลังหามาตรการในการช่วยเหลือระยะสั้น เช่น การให้ประชาชนเข้าถึงอาหาร น้ำดื่ม ยา และที่พักพิงชั่วคราวอย่างทั่วถึงเพื่อเยียวยา ส่วนระยะกลาง คือการเพิ่มรายได้ลดภาระ โดยมาตรการพักชำระหนี้ สินเชื่อดอกเบี้ย 0% และมาตรการทางการพาณิชย์ เช่น การหาสินค้าที่ต้นทุนต่ำกว่าทุน โดยการซัพพอร์ตของภาครัฐลงไปให้พี่น้องประชาชนได้ถึงมือ นอกเหนือจากการที่ได้รับบริจาคสินค้า หรือผลิตภัณฑ์ต่างๆ จากภาคเอกชนแล้ว
สำหรับระยะที่ 3 คือการฟื้นฟูให้กลับสู่ภาวะปกติ ซึ่งตนเชื่อว่าผู้ประกอบการ และนักธุรกิจส่วนใหญ่คงมีเรื่องของประกันภัยในทรัพย์สินของพวกเขา สิ่งที่เราจะต้องการให้เกิดขึ้นก็คือต้องมีการเร่งประสานงานให้กับทางบริษัทประกันภัยดำเนินการจ่ายค่าประกันให้เร็วที่สุด พร้อมทั้งการจัดหาสินเชื่อต่างๆ โดยดอกเบี้ยที่เป็น 0% เพื่อซ่อมแซมบ้านเรือน ร้านค้า และความเสียหายอื่นๆ ที่อยู่ในเกณฑ์ ซึ่งเราจะต้องมีการเร่งสำรวจ โดยกระทรวงมหาดไทยพร้อมที่จะให้ความร่วมมือในการสำรวจ เพราะต้องมีการเชื่อมโยงการทำงานเข้าด้วยกัน นี่เป็นกรอบที่ตนขอมอบให้ที่ประชุมได้หาหนทางและพิจารณาเร่งดำเนินการ เพื่อให้เกิดการดำเนินการโดยเร็วที่สุด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกรัฐมนตรีได้เดินทางกลับจากการลงพื้นที่น้ำท่วมอ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ถึงกรุงเทพมหานครช่วงกลางดึกคืนวันที่ 26 พฤศจิกายน 2568 เพื่อมาร่วมประชุมดังกล่าว โดยมีรายงานว่าช่วงบ่ายนายกรัฐมนตรีอาจจะเดินทางลงพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา อีกครั้ง
มาตรการช่วยเหลือน้ำท่วมภาคใต้ 3 ระยะ
ระยะที่ 1 ช่วยเหลือ - ช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเร่งด่วน
ระยะที่ 2 เยียวยา - ให้ผู้ประสบภัยกลับมาตั้งหลักได้อย่างรวดเร็ว โดยกระทรวงการคลังจะบูรณาการหน่วยงานในสังกัด ทั้งหมด ในการออกมาตรการเยียวยาทั้งประชาชนและผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบหลังน้ำท่วมลดระดับอย่างครอบคลุม อาทิ
- การพักชำระหนี้
- การลดดอกเบี้ย
- การออกสินเชื่อพิเศษ ดอกเบี้ยต่ำ สำหรับผู้ได้รับผลกระทบ เช่น ซ่อมแซมที่อยู่อาศัย ร้านค้า
- การมอบเงินเยียวยา
- การประสานให้ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เข้ามามีบทบาทในการเร่งระยะเวลาและดูแลการเคลมประกันภัย
- การจัดตั้งศูนย์พักพิงสำหรับประชาชนที่ยังไม่สามารถอาศัยในที่พักของตนได้
- การขอความร่วมมือจากรัฐวิสาหกิจต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องผ่าน สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เพื่อช่วยในการฟื้นฟูกิจการและซ่อมแซมที่อยู่อาศัยซึ่งจะเป็นการบูรณาการความช่วยเหลือจากหน่วยงานต่าง ๆ
ระยะที่ 3 ฟื้นฟู - ให้การดำเนินชีวิตและธุรกิจกลับมาได้ กระทรวงการคลังจะออกมาตรการฟื้นฟูที่จำเป็นสำหรับผู้ได้รับผลกระทบในภาพรวม โดยเน้นมาตรการที่เป็นประโยชน์ สามารถช่วยสนับสนุนผู้ได้รับผลกระทบให้สามารถฟื้นฟูอาชีพ และชีวิตความเป็นอยู่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ อาทิ การออกสินเชื่อฟื้นฟู ซึ่งจะได้มีการพิจารณาออกมาตรการตามความเหมาะสม ประสานให้กับบริษัทที่รับประกันได้จ่ายเงินประกันได้เร็วที่สุด และจัดหาสินเชื่อต่างๆให้ผู้ประสบภัยด้วยอัตราดอกเบี้ย 0% เพื่อซ่อมแซมบ้านเรือน ร้านค้า และความเสียหายอื่นๆ ที่อยู่ในเกณฑ์ ซึ่งจะต้องเร่งสำรวจ โดยกระทรวงมหาดไทยพร้อมที่จะให้ความร่วมมือในการสำรวจเพื่อให้เชื่อมโยงการทำงานเข้าด้วยกัน.