“นิกร” ในฐานะคนสงขลา วอนรัฐบาลงัดแผน “ศบปภ.” ของ พม. ช่วยกลุ่มเปราะบาง รับมือน้ำท่วมหาดใหญ่และหลายจังหวัดภาคใต้
วันที่ 26 พฤศจิกายน 2568 นายนิกร จำนง ในฐานะอดีตประธานคณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (นายวราวุธ ศิบปอาชา) ซึ่งตั้งศูนย์บริหารการดูแลกลุ่มเปราะบางจากภัยพิบัติ (ศบปภ.) ในกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ขึ้น และดำเนินการบริหารศูนย์มาเกือบ 2 ปีแล้ว กล่าวถึงสถานการณ์น้ำท่วม ว่า ในฐานะคนสงขลาขอวิงวอน เสนอให้รัฐบาลนำแผนบริหารการดูแลกลุ่มเปราะบางจากภัยพิบัติของ ศบปภ. ในกระทรวง พม. กลับมาใช้ในจังหวัดสงขลาและจังหวัดโดยรอบในทันที เชื่อว่าข้อมูลและแผนงานที่เคยเตรียมไว้ตลอดจนการที่เคยซ้อมแผนไว้ก่อนจะสามารถช่วยเหลือและเยียวยาประชาชนกลุ่มเปราะบางได้มากอย่างแน่นอน
นายนิกร เผยต่อไปว่า ต้องขออภัย ไม่ใช่การแทรกแซงงานของใคร แต่ด้วยความเป็นห่วงพี่น้องในภาคใต้บ้านเกิดของตนที่ตกอยู่ในสภาวะยากลำบากมาก แผนดังกล่าวเป็นแผนให้ความช่วยเหลือ ดูแล และเยียวยาเปราะบาง รวมทั้งการจัดทำข้อมูลกลุ่มเปราะบางไว้ครบถ้วนจนถึงระดับตำบลครบทุกจังหวัด โดยเฉพาะจังหวัดสงขลาซึ่งเป็นจังหวัดเริ่มทำแผนและซ้อมแผนเผชิญเหตุเป็นจังหวัดแรกของประเทศไทยเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2567 และต่อมาตลอดรวมทั้งทุกจังหวัดในภาคใต้ที่กำลังเริ่มเผชิญกับอุทกภัยแล้วหลายจังหวัด ตนในฐานะเคยรับผิดชอบดูแลศูนย์นี้ เชื่อว่าจะมีประโยชน์มาก เพราะได้ซักซ้อมกับข้าราชการของ พม. ทุกระดับร่วมกับส่วนอื่นในทุกจังหวัดไว้ก่อนแล้ว จึงขอให้นำข้อมูลนั้นมาใช้ดูแลประชาชนได้ทันที
ขณะเดียวกัน นายนิกร ยังกล่าวด้วยว่า ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ท่านก็กำกับดูแลกระทรวง พม. อยู่ด้วยแล้ว ก็จะเป็นเครื่องมือในการช่วยประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มเปราะบาง ทั้งเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ และคนพิการ ซึ่งตนตรวจสอบลงไปดูแล้วกำลังตกอยู่ในภาวะคับขันมาก ในแผนที่ว่านี้ได้กำหนดรายละเอียด ทั้งสิ่งของจำเป็นที่ไม่ค่อยมีในถุงยังชีพในยามเกิดภัย เช่น นมสำหรับเด็กเล็ก แพมเพิสสำหรับทั้งเด็กและคนพิการ ตลอดจนยาบำรุงที่จำเป็นสำหรับผู้สูงอายุ รวมถึงสิ่งของจำเป็นอื่นๆ ด้วย
...
อีกทั้งการเยียวยาหลังน้ำลดก็เป็นหน้าที่สำคัญของกระทรวง พม. ซึ่งมีแผนจัดทำไว้แล้วเช่นกัน ขาดแต่การปรับปรุงเกี่ยวกับงบกลางที่จะใช้ ที่ผ่านมาได้ประชุมทำข้อตกลงกับกรมบัญชีกลางไว้แล้ว ทั้งค่าใช้จ่ายในช่วงเผชิญเหตุสำหรับกลุ่มเปราะบาง และการเยียวยาประชาชนช่วงหลังน้ำลดที่จะต้องเตรียมการไว้ได้แล้ว ตนจึงขอให้ นายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่มีหน้าที่และอำนาจรับผิดชอบในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินอุทกภัย (ศปกฉ.) และในฐานะรับผิดชอบดูแลสำนักงบประมาณ รับไปพิจารณาในโอกาสแรกทันที.