กระทรวงกลาโหมระดมทุกเหล่าทัพช่วยน้ำท่วมหาดใหญ่ ตั้งศูนย์บัญชาการกลาง  เดินเครื่องปฏิบัติการ 24 ชั่วโมงหลังสถานการณ์น้ำท่วมขยายวงกว้างและทวีความรุนแรง 


วันที่ 25 พฤศจิกายน 2568 พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์หลังได้บินด่วนลงพื้นที่ ตรวจเยี่ยมสถานการณ์และประชุมสั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทันที เพื่อเร่งอพยพประชาชนในจุดเสี่ยงสูง และสนับสนุนการขนส่งเสบียงไปยังพื้นที่ถูกตัดขาด ว่า “ชีวิตประชาชนคือภารกิจสูงสุด ทุกเหล่าทัพต้องเข้าถึงพื้นที่ให้เร็วที่สุด และช่วยให้ตรงกับความต้องการจริงของประชาชนในแต่ละชุมชน”

โดยมีแผนปฏิบัติการดังนี้

- ระดมยุทโธปกรณ์และกำลังพลขนาดใหญ่ เพื่อรองรับภารกิจช่วยเหลือเร่งด่วน กระทรวงกลาโหมได้ระดมทรัพยากรจากทุกเหล่าทัพ ดังนี้

• กองทัพอากาศ เตรียมเครื่องบินลำเลียง C-130 จำนวน 5 ลำ สนับสนุนการลำเลียงเวชภัณฑ์–เสบียง และการอพยพฉุกเฉิน

• เรือหลวงจักรีนฤเบศร เดินทางถึงจังหวัดสงขลา พร้อม เฮลิคอปเตอร์ประจำเรือ 2 ลำ และ ชุดปฏิบัติการพิเศษหน่วยซีล 13 ชุด ใช้รูปแบบปฏิบัติการเทียบเคียงภารกิจช่วยเหลือน้ำท่วมเชียงราย

• กรมการทหารช่าง ส่ง เรือท้องแบน 8 ลำ, เรือยาง 17 ลำ และกำลังพลชุดช่างจำนวนมากลงพื้นที่

• เพิ่มการใช้ เรือยนต์ / เรือยางอีก 15 ลำ และ รถบรรทุกทางยุทธวิธี (FTS) กว่า 120 คัน แม้ปัจจุบันยังไม่เพียงพอต่อความต้องการในพื้นที่

• ชุดแพทย์ทหารจากทุกเหล่าทัพ ถูกจัดส่งเข้าพื้นที่เสี่ยงและศูนย์พักพิง

• ยุทโธปกรณ์ทางอากาศชุดแรกจะทยอยออกจาก กองบิน 6 ภายในวันพรุ่งนี้(26 พฤศจิกายน 2568)

...


โดยโครงสร้างบัญชาการเหตุการณ์ จะแบ่งพื้นที่เป็น 2 โซน เพื่อให้การปฏิบัติการมีเอกภาพและลดความซ้ำซ้อน กระทรวงกลาโหมจัดระบบบัญชาการร่วม ดังนี้

• แม่ทัพภาคที่ 4 ทำหน้าที่ผู้บัญชาการเหตุการณ์หลัก

• ผบ.นทพ. ทำหน้าที่ผู้อำนวยการสถานการณ์

• รองปลัดกระทรวงกลาโหม กำกับดูแลด้านนโยบายและการประสานงาน

• ตั้ง ศูนย์บริหารข้อมูลข่าวสารกระทรวงกลาโหม ทำหน้าที่รวบรวมข้อมูลพื้นที่เสี่ยง ประสานส่วนกลาง และส่งต่อข้อมูลความช่วยเหลือ

• ตั้ง ศูนย์ประชาสัมพันธ์ช่วยเหลือผู้ประสบภัย เพื่อเผยแพร่ข้อมูลและเปิดช่องทางรับเรื่องจากประชาชน

โดยพื้นที่ปฏิบัติการแบ่งเป็น 2 โซน คือ

1. โซนตะวันออก: กองทัพภาคที่ 4 รับผิดชอบ

2. โซนตะวันตก: กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เขต 12 รับผิดชอบ


สำหรับสถานการณ์เร่งด่วนในพื้นที่ต้องดำเนินการช่วยเหลือทันทีประกอบด้วย

1. เรือท้องแบนเข้าไม่ถึงหลายจุด จำเป็นต้องใช้เรือเครื่องยนต์หรือรถบรรทุกขนาดใหญ่ในการส่งเสบียง

2. ผู้ป่วยวิกฤติ รพ.หาดใหญ่เสี่ยงขาดแคลนออกซิเจน เนื่องจากเครื่องผลิตออกซิเจนจมใต้น้ำ อยู่ระหว่างประสานเฮลิคอปเตอร์อพยพไปยัง รพ.สงขลานครินทร์ (มอ.) ภายในวันนี้

3. กระทรวงกลาโหมจะ ปรับแผนการปฏิบัติการ ลดงานซ้ำซ้อน และจัดระบบ Feedback ประชาชน เพื่อให้การช่วยเหลือตรงจุดที่สุด

เป้าหมายการปฏิบัติเร่งด่วนที่ต้องทำก่อน คือ

• เร่งอพยพประชาชนจากพื้นที่เสี่ยง ให้ครบ 100%

• เปิดเส้นทางขนส่งหลักอย่างน้อย 3–5 จุดสำคัญ

• เติมเสบียงให้พื้นที่ถูกตัดขาดทั้งหมด

• เสริมระบบการแพทย์ภาคสนามและการอพยพผู้ป่วยฉุกเฉิน