หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ตำหนิ รัฐบาลล้มเหลวรับมือน้ำท่วมหาดใหญ่ แนะเร่ง กู้วิกฤตน้ำสะอาด ระดม “รถผลิตน้ำดื่มเคลื่อนที่” จอดจุดปลอดภัยกลางหาดใหญ่ ภายใน 24 ชั่วโมง พร้อมตั้งผู้บัญชาการสถานการณ์ 


เมื่อเวลา 9.00 น. วันที่ 25 พ.ย. 2568 นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความถึงสถานการณ์น้ำท่วมที่ อ. หาดใหญ่ จ. สงขลาว่า ตอนนี้เข้าขั้นวิกฤต (ธงแดง) และยังคงไม่หยุด สิ่งที่น่ากังวลที่สุดไม่ใช่แค่ปริมาณน้ำ แต่คือ “ระบบสาธารณูปโภคที่เป็นอัมพาต” โดยตนได้ติดตามสถานการณ์และถอดบทเรียนเปรียบเทียบกับน้ำท่วมภาคเหนือที่ผ่านมา พบว่าบริบทของหาดใหญ่คือ “Urban flood” หรือภัยพิบัติในเขตเมืองเศรษฐกิจ ความเสียหายไม่ได้มาจากดินโคลนเหมือนเชียงราย แต่มาจากการที่เมืองขาดน้ำสะอาดและระบบไฟฟ้าที่สุ่มเสี่ยง


หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ในนามพรรคเพื่อไทย ขอส่งข้อเสนอแนะเร่งด่วน 4 ข้อ ไปยังรัฐบาลและศูนย์ปฏิบัติการฯ เพื่อปรับแผนรับมือให้ทันสถานการณ์ “เดี๋ยวนี้” 

1. กู้วิกฤต “น้ำสะอาด” ทันที (Water rescue) ตอนนี้โรงกรองน้ำหาดใหญ่หยุดการผลิต สิ่งที่พี่น้องต้องการด่วนที่สุดคือ “น้ำดื่ม”  รัฐต้องระดม “รถผลิตน้ำดื่มเคลื่อนที่” จากเหล่าทัพและกรมทรัพยากรน้ำบาดาล เข้าไปจอดในจุดปลอดภัย (Safe zone) กลางเมืองหาดใหญ่ ภายใน 24 ชม. เพื่อผลิตน้ำแจกจ่าย ไม่ต้องรอถนนแห้ง เพราะคนขาดน้ำไม่ได้

2. แจ้งเตือนต้องมี “Action plan” (Active warning) การรู้แค่ระดับน้ำไม่พอ แต่ต้องรู้ว่า “ต้องทำตัวอย่างไร”

ข้อเสนอ: ใช้ระบบ Cell broadcast ยิงตรงเข้ามือถือระบุพิกัดชัดเจนว่า “โซนไหนต้องออกตอนนี้” “รถอพยพจอดที่ไหน” “จุดรับน้ำอยู่ตรงไหน” เพื่อลดความสับสนและความตื่นตระหนกหน้างาน

...

3. “เกราะป้องกันเศรษฐกิจ” (Economic shield) หาดใหญ่คือเมืองค้าขาย ความเสียหายหยุดชะงักแค่วันเดียว กระทบห่วงโซ่ทั้งภาคใต้

4. รัฐบาลล้มเหลวในการรับมือวิกฤตครั้งนี้ ต้องตั้งผู้บัญชาการเหตุการณ์ด่วน เพื่อทำงานแบบเกาะติดและแก้ปัญหาเฉพาะหน้าในทุกมิติ

ข้อเสนอ: กระทรวงการคลังและแบงก์ชาติต้องเตรียมประกาศมาตรการ “พักชำระหนี้และสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Soft loan)” สำหรับคนหาดใหญ่ทันที เพื่อสร้างความมั่นใจว่ารัฐบาลจะไม่ทิ้งภาคเศรษฐกิจให้ล่มสลาย

นายจุลพันธ์ กล่าวว่า วิกฤตครั้งนี้หนักหนา แต่ถ้าเราบริหารจัดการด้วย “ข้อมูล” และ “ความเร็ว” เราจะผ่อนหนักให้เป็นเบาได้ ทั้งนี้พรรคเพื่อไทยขอส่งกำลังใจให้พี่น้องชาวสงขลา และเจ้าหน้าที่ด่านหน้าทุกท่าน เราจะเกาะติดสถานการณ์และผลักดันความช่วยเหลือจนกว่าสถานการณ์จะกลับสู่ภาวะปกติ