นายกฯ รับน้ำท่วมภาคใต้หนัก หากไม่มีฝน 3-4 วันดีขึ้น ย้ำต้องเติมวัตถุดิบช่วยคนติดค้าง บ่ายนี้หลังประชุมใหญ่พรรคภูมิใจไทย ลงพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ขอดูให้เห็นกับตา จะได้สั่งการมีประสิทธิภาพ
เมื่อเวลา 10.23 น. วันที่ 23 พฤศจิกายน 2568 นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เดินทางเข้าประชุมใหญ่พรรคภูมิใจไทยในฐานะหัวหน้าพรรค โดยก่อนเข้าประชุมผู้สื่อข่าวถามถึงสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ในขณะนี้ ว่า ตอนนี้น้ำท่วมภาคใต้ประมาณ 3 จังหวัด แต่ที่หนักๆ คือ จ.พัทลุง และ จ.สงขลา และอาจจะมีสถานการณ์เพิ่มมากขึ้นใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่ปีนี้ที่ อ.หาดใหญ่ หนักเป็นพิเศษเพราะมีปริมาณน้ำหลากเข้ามา
ในขณะนี้มี นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงไปบัญชาการในพื้นที่ ตนตามไปช่วงบ่ายแก่ๆ ได้เห็นสถานการณ์หน้างาน ตอนนี้จัดให้มีการเตรียมศูนย์อพยพสำหรับผู้ประสบภัย แต่สถานการณ์น้ำเช่นนี้ไม่เหมือนภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน ตรงนั้นน้ำขังเพราะไม่มีที่ไป แต่ภาคใต้ยังมีการระบายออกสู่ทะเลได้ถ้าไม่มีปริมาณพายุฝนเข้ามาเพิ่มเติมก็จะใช้เวลาประมาณ 3-4 วัน คาดว่าพายุลูกใหญ่ๆ น่าจะมีอีก 1-2 วันและน่าจะหมดแล้ว
สำหรับเรื่องความช่วยเหลือ นายอนุทิน ระบุว่า ได้สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด สำรวจจำนวนครอบครัวผู้ประสบภัยเพื่อให้การช่วยเหลืออย่างทันที เพราะเราเตรียมการไว้แล้ว เรารู้อยู่แล้วว่าอย่างไรมันก็จะต้องมีสภาวะน้ำท่วมแบบนี้ ก็จะเร่งให้การช่วยเหลือ ซึ่งในส่วนของรัฐบาลคือการจ่ายเงินเยียวยา ดูสภาพแล้วเข้าหลักเกณฑ์หมด หลังคาเรือนละ 9,000 บาท ที่เราจะเร่งดำเนินการให้ทันที ไม่ต้องไปรอเป็นเดือนกว่าจะสำรวจเสร็จ และสิ่งที่จะต้องเติมเข้าไปคือวัตถุดิบในการประกอบอาหาร เมื่อน้ำเข้ามาปริมาณมากทำให้ไฟดับ ประชาชนที่ตกค้างอยู่ในโรงแรม สภาหอการค้าแห่งประเทศไทยไปประชุมมีคนเข้าร่วมจำนวนมาก เมื่อเกิดเหตุน้ำท่วมก็ประชุมไม่ได้ บางส่วนเช่าเหมาลำเครื่องบินกลับมา บางส่วนยังตกค้างในพื้นที่ แต่อาหารไม่พอจึงต้องเร่งนำอาหารเข้าไปแจกจ่าย ทั้งคนที่ติดค้างและคนที่มาท่องเที่ยว
...
“วันนี้คงมีการระดมเป็นอันมาก ผมได้สั่งการให้ดำเนินการแล้ว ถ้ามีเวลาเดี๋ยวผมจะลงไปอีกบ่ายนี้ เพราะว่าต้องไปตาม ต้องเห็นกับตาถึงจะสั่งการได้ถูก และให้เกิดการตื่นตัว เข้าใจระบบ ต้องขอบคุณท่านพิพัฒน์, ท่านธรรมนัส, ท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ท่านธนกร (วังบุญคงชนะ) พอเกิดเหตุก็ลงไปในพื้นที่ ท่าน มท.4 ท่านศศิธร กิตติธรกุล ก็อยู่ในพื้นที่ตลอด สส.ที่อยู่ในพื้นที่นั้นก็ประสานงานกัน ช่วยชาวบ้านอย่างขันแข็งมาก”
นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อไปว่า ในภาคใต้มีคลอง ร.1 ระบายน้ำเพื่อลงทะเล แต่ปริมาณน้ำที่มีมากเกินคาดการณ์จึงทำให้เกิดเหตุเช่นนี้ ไม่เหมือนภาคกลางตอนบน ตรงนี้เร่งทำเรื่องฟลัดเวย์ ทางระบายน้ำต่างๆ อยู่ในโรดแมปกรมชลประทานอยู่แล้ว ส่วนของภาคใต้ต้องไปหาวิธีดูว่าจะทำอย่างไรให้การระบายน้ำมีประสิทธิภาพมากกว่านี้ เพราะทางออกทะเลของภาคใต้มีแทบทุกจังหวัด ยกเว้น อ.หาดใหญ่ เป็นที่ต่ำ ก็เลยเป็นแอ่ง ช่วง อ.เมืองสงขลาไม่ท่วม ต้องหาวิธีแก้ไข และความจริงคลอง ร.1 ใหญ่มากเหมือนเป็นแม่น้ำ แต่ปริมาณน้ำมากจนล้นตลิ่งขึ้นมา ต้องแก้ไขหาวิธีเพิ่มทางระบายน้ำได้อย่างไรบ้าง เมื่อวานนี้ (22 พฤศจิกายน) อธิบดีกรมชลประทานก็อยู่ในพื้นที่ รวมถึงอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น อธิบดีกรมการปกครอง พร้อมสั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ประกาศเป็นเขตประสบภัยทั้งหมด เพราะฉะนั้นเรื่องงบประมาณ การสั่งการ ก็อยู่ในเรื่องบูรณาการ ผู้ว่าฯ สั่งได้ทุกหน่วยงาน
ทางด้านคำถามมีการประเมินหรือไม่ว่าน้ำจะลดลงเมื่อไหร่ นายกรัฐมนตรี ตอบว่า “เขาบอกว่าขอเวลาประมาณ 3-4 วัน เมื่อคืนผมก็คุยกับท่านอธิบดีกรมชลประทานจนถึงดึกดื่นนะ ก็หารือกับท่าน ท่านก็บอกว่ามันจะมาช่วงนี้ เมื่อคืนนี้น่าจะหนักที่สุดแล้ว น้ำก็อยู่ในสภาพค่อยๆ ระบายลงไป แต่ถ้าไม่มีอะไรเติมมา ส่วนข่าวที่กังวลว่าจะมีน้ำหลากมาจากแถวสะเดาอีก อะไรอีก เขาก็บอกตรงนั้นก็น่าจะบริหารจัดการได้ถ้าไม่มีปริมาณน้ำฝนเพิ่มมากขึ้น”
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า วันนี้เวลา 14.00 น. นายกรัฐมนตรีจะลงพื้นที่ให้กำลังใจพี่น้องประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วม ณ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา