“มนพร” ควง “เผ่าภูมิ” ลุยปราศรัยรายตำบล รวมพลังชาวนครพนม เลือก “เพื่อไทย” ยกจังหวัดทั้ง 4 เขต ชูนโยบายหวยเกษียณ จำเป็นต้องเลือกเพื่อไทย ตั้งรัฐบาลเสียงข้างมากเข้าไปสานต่อทุกนโยบาย


วันที่ 21 พ.ย. 2568 นางมนพร เจริญศรี สส.เขต 2 นครพนม พรรคเพื่อไทย อดีต รมช.คมนาคม ในฐานะรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง และแกนนำครอบครัวเพื่อไทย ลงพื้นที่ อ.เรณูนคร อ.ธาตุพนม นครพนม ปราศรัยย่อยชูนโยบายต่อเนื่อง เพื่อรวมพลังคนนครพนม เลือกพรรคเพื่อไทย ยกจังหวัดทั้ง 4 เขต ประกอบด้วย

เขตเลือกตั้งที่ 1 ดร.ภูมิพัฒน์ พชรทรัพย์ สส.เขต 1 นครพนม พรรคเพื่อไทย

เขตเลือกตั้งที่ 2 นางมนพร เจริญศรี สส.เขต 2 นครพนม อดีต รมช.คมนาคม

เขตเลือกตั้งที่ 3 สจ.เจ นายธนากรณ์ ปราณีนิตย์ ว่าที่ผู้สมัคร สส.เขต 3 นครพนม พรรคเพื่อไทย

เขตเลือกตั้งที่ 4 นายชาญชัย คำจำปา อดีต รองนายก อบจ.นครพนม ว่าที่ผู้สมัคร สส.เพื่อไทย เขต 4 นครพนม


ต้องเลือกพท.ไปตั้งรัฐบาล

นางมนพร ยืนยันความจำเป็น นครพนม จะต้องเลือกเพื่อไทย ยกจังหวัดเข้าไปตั้งรัฐบาลเสียงข้างมาก สานต่อทุกนโยบายของพรรคเพื่อไทย ที่ประชาชนได้ประโยชน์จริง โดยเฉพาะนโยบายหวยเกษียณ ที่เกิดจากแนวคิดพรรคเพื่อไทย ตอบโจทย์คนไทยชอบเสี่ยงโชคซื้อหวย กลายเป็นเงินออม เพิ่มสวัสดิการดูแลผู้สูงอายุ และเป็นรายได้ตกทอดสู่ลูกหลาน ถือเป็นอีกนโยบายสำคัญ ที่จะต้องสานต่อ

...


ย้ำนโยบายหวยเกษียณ

นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวปราศรัยว่า นโยบายหวยเกษียณ เป็นอีกหนึ่งนโยบายสำคัญ โดยพรรคเพื่อไทย ได้คิดริเริ่มดำเนินการในช่วงเป็นรัฐบาล ปัจจุบันผ่านความเห็นชอบของสภาผู้แทนราษฎร และประกาศใช้ตามกฎหมาย แต่เกิดปัญหาทางการเมือง เปลี่ยนขั้วรัฐบาลจึงชะงักลง ดังนั้นจำเป็นที่การเลือกตั้ง ที่จะมาถึงพี่น้องชาวนครพนม ต้องรวมพลังเลือกเพื่อไทย ยกจังหวัดทั้ง 4 เขต เข้าไปสนับสนุนตั้งรัฐบาลเสียงข้างมาก สานต่อทุกนโยบายสำคัญ ที่เกิดประโยชน์ต่อประชาชน

มั่นใจเกิดประโยชน์

นายเผ่าภูมิ  กล่าวด้วยว่า มั่นใจนโยบายหวยเกษียณ เป็นนโยบายที่ตอบโจทย์พี่น้องคนไทย ที่ชอบเสี่ยงโชค เป็นการซื้อหวยที่ถูกต้องตามกฎหมาย เป็นการขายหวยแบบระบบดิจิตอล ในราคาใบละ 50 บาท ซื้อได้คนละไม่เกิน 3,000 บาท ออกรางวัลทุกวันศุกร์ รางวัลที่ 1 มี 5 รางวัล รางวัลละ 1 ล้านบาท รางวัลที่ 2 มีจำนวน 10,000 รางวัล รางวัลละ 1,000 บาท ส่วนคนซื้อจะต้องมีอายุ 15 ปีขึ้นไป หากไม่ถูกรางวัลจะกลายเป็นเงินออม ได้คืนเมื่ออายุ 60 ปี ส่วนผู้อายุเกิน 60 ปี จะได้คืนหลังซื้อ 5 ปีขึ้นไป หรือหากเสียชีวิตจะตกสู่ลูกหลาน ถือเป็นนโยบายที่จะส่งเสริมการออม เพิ่มสวัสดิการดูแลผู้สูงอายุ มั่นใจเกิดประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน แน่นอน