“จุลพันธ์” เผย เพื่อไทยไม่รอ สส.กานต์ แล้ว หลังออกกลุ่มไลน์ ร่วมถ่ายภาพกับ “เนวิน” ยังติดต่อไม่ได้ แต่พรรคต้องเดินหน้าเตรียมหาผู้สมัครคนใหม่แทน ถามภูมิใจไทย ทำถูกหรือไม่ ดูด สส. ไป ทั้งที่ยังมีสังกัด
วันที่ 18 พ.ย. 2568 นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่ นางสาวสุดารัตน์ พิทักษ์พรพัลลภ สส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย ร่วมอยู่ในเฟรมถ่ายภาพกับนายเนวิน ชิดชอบ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้ออกจาก LINE กลุ่ม สส.เพื่อไทยว่า ตนเองได้พูดคุยกันหลายครั้งซึ่งเจ้าตัวก็ยืนยันว่าจิตใจยังอยู่กับพรรคเพื่อไทยอยากที่จะอยู่กับเรา แต่เมื่อมีภาพที่ปรากฏขึ้นมาก็ได้มีการสอบถามเพราะอยากจะให้มีความชัดเจน ว่ายังมีอุดมการณ์และยังยึดมั่นกับพรรคเพื่อไทย พร้อมจะเดินกับเราต่อไปหรือไม่ แต่เมื่อรอแล้วไม่มีความชัดเจนพรรคเพื่อไทยก็ต้องพิจารณาใหม่โดยจะหาคนอื่นที่มีความพร้อมและเหมาะสมกว่าลงสมัครรับเลือกตั้งในเขตนั้นแทน พร้อมย้ำว่ากับตัว สส.กานต์ และพรรคเพื่อไทยก็ไม่มีความขัดแย้งกัน เพราะคนจะเข้าหรือออกถือเป็นเรื่องปกติ การจะเปลี่ยนใจหรือดำเนินการทางการเมืองทุกคนสามารถตัดสินใจได้แต่พรรคเพื่อไทยก็ต้องเดินหน้าซึ่งวันนี้คณะกรรมการประจำภาคก็ได้พิจารณาแล้วเพื่อหาตัวผู้สมัครคนใหม่เข้ามาแทน
“เราจะรอตลอดไม่ได้หรือจะรอไปจนถึงวันเลือกตั้งแล้วดูว่าใครจะยังอยู่หรือไปคงทำไม่ได้” นายจุลพันธ์กล่าว
ส่วนจะมี สส. ของพรรคเพื่อไทยคนอื่นย้ายไปอยู่พรรคภูมิใจไทยเพิ่มเติมหรือไม่ นายจุลพันธ์กล่าวว่าต้องดูกันเป็นกรณีจะฟังจากข่าวอย่างเดียวไม่ได้ ซึ่งขณะนี้พรรคเพื่อไทยกำลังอยู่ในช่วงของการคัดสรรตัวผู้สมัคร พร้อมย้ำว่าคนที่มีความประสงค์และมีความตั้งใจมีอุดมการณ์จะอยู่กับพรรคเพื่อไทยมีเยอะแต่จะต้องดูผู้สมัครที่มีอุดมการณ์ มีแนวความคิดที่ตรงกันเป็นเรื่องหลักเพื่อจะเดินหน้าไปสู่การเลือกตั้ง และคำถามนี้ก็ไม่อยากให้สื่อมาถามพรรคเพื่อไทยแต่ควรจะไปถามพรรคภูมิใจไทยว่ากระบวนการที่ทำนี้เป็นกระบวนการปกติหรือไม่ เป็นการสนับสนุนการเติบโตของระบอบประชาธิปไตยหรือไม่ การมาเอาตัว สส.ของพรรคที่ยังมีสังกัดอยู่กลับใช้วิธีการนอกเหนือจากกระบวนการปกติเพื่อดึงดูดใจ ซึ่งตนเองมองว่าไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้อง
...
ส่วนเพราะสาเหตุอะไรถึงทำให้ สส.กานต์ ตัดสินใจทิ้งพรรคเพื่อไทยไปซบพรรคภูมิใจไทย นายจุลพันธ์กล่าวว่า ยังมีคนที่มีอุดมการณ์และยึดมั่นอยู่กับพรรคเพื่อไทยอีกจำนวนมากและสิ่งที่พรรคเพื่อไทยกำลังทำคือการยกเครื่องปรับโครงสร้างของพรรคและมีนโยบายที่ตอบสนองประชาชน ยอมรับว่าจะต้องใช้เวลาแต่เชื่อว่าผลลัพธ์ที่ได้ออกมารวมถึงคะแนนนิยมและความมั่นใจของประชาชนต่อพรรคเพื่อไทย จะขยับขึ้นตาม เมื่อถึงเวลานั้นก็จะทำให้สมาชิกและผู้สมัครเกิดความมั่นใจและพร้อมเดินไปกับพรรคเพื่อไทยแน่นอน