เริ่มแล้ว “คนละครึ่ง พลัส” เสริมทักษะดิจิทัลร้านค้า “ถุงเงิน” รับเงินสมทบเพิ่ม 20% ของยอดขาย สูงสุด 2,000 บาท จำกัด 400,000 สิทธิ ส่วน “คนละครึ่งพลัส เฟส 2” มาแน่ คาดชัดเจนธันวาคมนี้


วันที่ 18 พ.ย. 2568 นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ครม.มีมติอนุมัติ โครงการ "คนละครึ่ง พลัส" ให้กับร้านค้าที่ร่วมในโครงการผ่านแอปฯ "ถุงเงิน" โดยรัฐบาลจะเติมเงินให้แก่ร้านค้าที่ผ่านการอบรมเพิ่มทักษะ หรือ Upskill การขายออนไลน์ ในอัตรา 20% ของยอดขาย แต่สูงสุดไม่เกิน 2,000 บาท ในช่วง 19 พ.ย.-19 ธ.ค. 68 เพื่อยกระดับทักษะดิจิทัลให้ผู้ประกอบการไทยในการใช้เทคโนโลยี และเครื่องมือดิจิทัล โดยรัฐบาลจะจ่ายเงินให้แก่ร้านค้าในวันที่ 25 ธ.ค.68 เพื่อเป็นของขวัญวันคริสต์มาส


ทั้งนี้ จะจำกัดจำนวนร้านค้าแค่ 4 แสนสิทธิแรกเท่านั้น จากปัจจุบันที่มีร้านค้าร่วมโครงการคนละครึ่งพลัสแล้ว เกือบ 950,000 ร้านค้า มีวงเงินดำเนินการ 800 ล้านบาท โดยจะดำเนินการผ่าน 1 ใน 3 ช่องทาง ประกอบด้วย

...

1. เข้าร่วมกับแพลตฟอร์ม Food Delivery 4 แพลตฟอร์มในโครงการคนละครึ่ง พลัส ซึ่งเป็นการเพิ่มยอดขายผ่านออนไลน์ เพิ่มโอกาสทางการขายจากร้านค้าออฟไลน์สู่ออนไลน์ โดยต้องมาลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการเพิ่มทักษะภายในวันที่ 19 พ.ย. 2568 เป็นต้นไป และต้องมียอดสั่งซื้อผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์อย่างน้อย 5 ครั้งใน 1 เดือน จึงจะถือว่าเป็นไปตามเงื่อนไขที่รัฐบาลกำหนด ส่วนร้านค้าที่เข้าร่วมแพลตฟอร์ม Food Delivery อยู่แล้ว หากจะรับสิทธิ์เงิน Top Up นี้ จะต้องเข้าร่วมอัพสกิลช่องทางอื่นๆแทน

2. เพิ่มความรู้เสริมสภาพคล่อง ผ่านการสมัครและเรียนหลักสูตรเสริมสร้างความรู้ทางการเงินผ่านธนาคารออมสิน www.oomtang.gsb.or.th สำเร็จตามเงื่อนไข

3. เพิ่มทักษะ AI โดยสมัครเรียนผ่านกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ทาง www.dbdacademy.dbd.go.th สำเร็จตามเงื่อนไขที่กำหนด สมัครตั้งแต่วันที่ 19 พ.ย. – 19 ธ.ค. 2568


เข้าร่วมแล้วเกือบหนึ่งล้านร้านค้า

“ผลตอบรับร้านค้าเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งพลัสดีมาก ล่าสุดมีกว่า 950,000 ร้านค้า ซึ่งอยากให้ผู้ขายพัฒนาทักษะ เพื่อให้ขายของให้ปัง ทำยังไงให้ต้นทุนถูกลง และกำไรได้เยอะขึ้น“ นายเอกนิติ กล่าวและว่า

มีเครื่องมือให้ใช้ฟรี 6เดือน

ขณะเดียวกัน ยังมีเครื่องมือดิจิทัลให้พ่อค้าแม่ค้าใช้ฟรี 6 เดือน ทั้งระบบบัญชีและข้อมูลต่างๆ ซึ่งสามารถขอกู้เงินผ่านธนาคารออมสินได้ รายละไม่เกิน 50,000 บาท เพื่อจะได้ไม่ไปกู้นอกระบบ โดยต้องไปเรียนรู้การทำบัญชี

เริ่มอบรม 19 พ.ย.นี้

สำหรับร้านค้าที่จะได้รับสิทธิ์มี 2 ส่วน คือ ร้านค้าที่อยู่ในระบบคนละครึ่ง พลัส ซึ่งไม่ต้องทำอะไร พรุ่งนี้ (19 พ.ย.68) สามารถไปเริ่มอบรมทักษะได้ทันที ผ่านทั้ง 4 แพลตฟอร์ม  ส่วนร้านค้าใหม่ จำเป็นต้องลงทะเบียนก่อนที่เว็บไซต์คนละครึ่ง.com แล้วจะมีการตรวจสอบความมีอยู่จริงของร้านค้าโดยกระทรวงมหาดไทย จากนั้น หากผ่านแล้วธนาคารกรุงไทยจะติดตั้งแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” ให้กับร้านค้าต่อไป ย้ำว่า มีเพียง 400,000 สิทธิเท่านั้น ที่จะได้รับเงิน 2,000 บาท


เฟส 2 รอชัดเจนธันวาคม

ในส่วนของความชัดเจน “คนละครึ่ง พลัส“ เฟส 2 นั้น นายเอกนิติ ย้ำว่า นายกรัฐมนตรี มีนโยบายชัดเจนว่าจะทำอย่างแน่นอน อยู่ระหว่างการหารือเกี่ยวกับกรอบวงเงินที่จะใช้ว่าจะเป็นเท่าไหร่ เบื้องต้นจะเป็นการนำ “งบกลาง” มาใช้ในเฟส 2 นี้ อยู่ในขั้นตอนการออกแบบให้ครอบคลุมทั้งฝั่งผู้ซื้อและผู้ขาย คาดว่า ความชัดเจนต่างๆ จะแล้วเสร็จภายในเดือนธันวาคมนี้ แล้วจะเริ่มใช้จ่ายได้ภายในเดือนมกราคม 2569 รวมถึงจะมีการดำเนินการควบคู่กับ “บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ” ที่เตรียมเปิดรอบใหม่ไปพร้อมๆกัน

เชื่อไตรมาส 4 ช่วยศก.เติบโต

นอกจากนี้ นายเอกนิติ ยังกล่าวถึงสำนักงานสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สศช. เปิดเผย GDP ไตรมาส 3 ปี 68 ขยายตัว 1.2% ชะลอลงจากไตรมาส 2 ที่ 2.8% และคาดว่า ไตรมาสที่ 4 จะเติบโตเพียง 0.6% ว่า ไม่ได้เหนือความคาดหมาย แต่ผลของนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจที่ออกมา ทั้งโครงการคนละครึ่ง พลัส, โครงการเที่ยวดีมีคืน การเติมเงินผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณ จึงเชื่อว่า จะเกิดการกระจายตัวทางเศรษฐกิจทั่วประเทศ โดยเฉพาะพ่อค้าแม่ค้ารายย่อยที่มีรายได้เพิ่มขึ้น 15-20% ดังนั้น จึงเชื่อว่าเศรษฐกิจไทยไตรมาส 4 ปี 68 จะเติบโตมากกว่า 0.6%