คณะรัฐมนตรี มีมติเห็นชอบเงินเยียวยาน้ำท่วม เผย จ่ายแบบขั้นบันได น้ำท่วมขังเกิน 4 เดือน รับเงินชดเชย 20,000 บาท เร่งจ่ายให้จบภายในสิ้นปีนี้
วันที่ 18 พฤศจิกายน 2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสิริพงส์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงมติคณะรัฐมนตรี ระบุว่า นายกรัฐมนตรีได้ห่วงใยเกี่ยวกับสถานการณ์น้ำท่วม ในบางพื้นที่มีน้ำท่วมยาวนานกว่าหกเดือน การเยียวยาในช่วงที่ผ่านมาเป็นการเยียวยาครั้งเดียว 9,000 บาท สำหรับพื้นที่ที่น้ำท่วมเกิน 30 วัน แต่ครั้งนี้นายกรัฐมนตรีได้ขอให้กระทรวงมหาดไทยและสำนักงบประมาณ รวมถึง นายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่กำกับดูแลเรื่องนี้ เสนอเรื่องเข้าวาระต่อไป
นายสิริพงส์ ระบุว่า จากมติคณะรัฐมนตรีวันที่ 21 ตุลาคม 2568 ได้เห็นชอบกรอบวงเงินใช้จ่ายงบกลางปี 2569 เพื่อเยียวยาน้ำท่วมจำนวน 6,170 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากฤดูฝนปี 2568 ตั้งแต่ 15 พฤษภาคม 2568 เป็นบ้านเรือนที่น้ำท่วมขัง โดยได้รับการเยียวยาเพียงอัตราเดียวคือ 9,000 บาทต่อครัวเรือน โดยกระทรวงมหาดไทยได้ประเมินว่ามี 685,554 ครัวเรือน ใน 65 จังหวัด และได้ให้ความช่วยเหลือไปแล้ว 2,520.1 ล้านบาท หรือคิดเป็น 49.84 % ของวงเงิน
ต่อมามติคณะรัฐมนตรีเห็นว่าสถานการณ์อุทกภัยครั้งนี้มีความรุนแรง ซึ่งได้วิเคราะห์ความเดือดร้อนของประชาชน ดังนั้นกระทรวงมหาดไทยจึงขอทบทวนหลักเกณฑ์บางส่วนภายใต้กรอบวงเงินเดิม โดยเพิ่มประเภทผู้ได้รับผลกระทบ คือกลุ่มที่ไม่ได้อาศัยอยู่ในพื้นที่น้ำท่วมขัง แต่เป็นพื้นที่โดยรอบที่ได้รับผลกระทบต่อการใช้ชีวิตติดต่อกันเกินกว่า 7 วันขึ้นไป แม้จะไม่ได้แช่น้ำ แต่ถูกน้ำล้อมบ้าน การเดินทางได้รับผลกระทบ ก็จะได้รับเงินเยียวยาด้วย โดยจะได้รับเงินช่วยเหลือในอัตราครัวเรือนละ 9,000 บาท
...
สำหรับเกณฑ์ใหม่ เดิมทีทุกคนได้ 9,000 บาท โดยจะเพิ่มเติม และจ่ายเป็นขั้นบันได ดังนี้
ผู้ที่ถูกน้ำท่วมขัง ตั้งแต่ 31-60 วัน ได้เพิ่ม อีก 5,000 บาท
ผู้ที่ถูกน้ำท่วมขัง ตั้งแต่ 61-90 วัน ได้เพิ่ม อีก 5,000 บาท
ผู้ที่ถูกน้ำท่วมขัง ตั้งแต่ 91-120 วัน ได้เพิ่ม อีก 5,000 บาท
ผู้ที่ถูกน้ำท่วมขังตั้งแต่ 121 วัน ได้เพิ่ม อีก 5,000 บาท
นายสิริพงส์ ระบุว่า หากประชาชนที่ถูกน้ำขัง มากกว่า 4 เดือนจะได้รับเยียวยาทั้งสิ้น 29,000 บาท โดยนายกรัฐมนตรีได้มีข้อห่วงใยว่า หากเกิดน้ำท่วมเกิน 4 เดือน ซึ่งปีนี้น้ำท่วมขังนานกว่าปกติ จึงให้คณะกรรมการฯ ไปคิดหลักเกณฑ์เพิ่มเติม เพื่อให้มีการอุดหนุนครั้งเดียวในปีนี้ ซึ่งจะรายงานให้ทราบต่อไป โดยนายกรัฐมนตรีได้สั่งการว่าให้กระบวนการจ่ายเงินทั้งหมดเสร็จสิ้นภายในสิ้นปี
สำหรับการปรับหลักเกณฑ์ในครั้งนี้ คาดการณ์ว่าจะมีผู้ที่ได้รับสิทธิได้รับเงินช่วยเหลือเพิ่มเติมอีกประมาณ 21,176 ครัวเรือน ซึ่งเป็นกลุ่มที่ยังไม่เคยได้รับเงินช่วยเหลือจำนวน 9,000 บาท มาก่อน และในกรณีที่มีผู้ประสบอุทกภัยขึ้นใหม่ภายใต้หลักเกณฑ์นี้ หากเคยได้รับเงินช่วยเหลือไปแล้ว จะไม่ได้รับเงินช่วยเหลือซ้ำอีก