พรรคเพื่อไทย ตั้ง “จาตุรนต์” นั่งประธานยุทธศาสตร์ หวังดึงกระแสความเชื่อมั่นกลับคืน ชี้ภารกิจสำคัญ สร้างนโยบายแก้ปัญหาประชาชนและเป็นหลักสร้างประชาธิปไตยให้ประเทศ
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 18 พ.ย. 2568 นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ สส.เชียงใหม่และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค นายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรค และนายจาตุรนต์ ฉายแสง ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทยคนใหม่ ร่วมกันแถลงข่าวแต่งตั้งประธานและคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย
นายจุลพันธ์ กล่าวว่าได้แต่งตั้งคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย หลังจากที่เมื่อวานนี้ (17 พฤศจิกายน) คณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทยได้มีการประชุมกันครั้งแรก ซึ่งคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคจะมีคนหลายรุ่น ทั้งรุ่นเก่าและรุ่นใหม่ มีประสบการณ์ ผ่านการต่อสู้มาทุกยุคสมัยกรรมการยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนพรรค ให้สามารถตอบสนองความต้องการของประชาชนได้ทุกกลุ่มเพื่อเข้าสู่กระบวนการเลือกตั้งตามระบอบรัฐสภา
...
จาตุรนต์ ยินดีได้รับมอบหมาย
ด้านนายจาตุรนต์ กล่าวว่าตนเองมีความยินดีที่ได้รับมอบหมายให้เป็นประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ในครั้งนี้ ความจริงตนเคยเป็นกรรมการยุทธศาสตร์ของพรรคเพื่อไทยไม่น้อยกว่า 15 ปี แต่ว่าไม่เคยมีครั้งไหนที่มีการตั้งโดยข้อบังคับอย่างเป็นทางการ เป็นกิจจะลักษณะ และก็คิดว่าไม่น่ามีครั้งไหนที่มีการรวมบุคลากรที่ครบทุกส่วนอย่างที่หัวหน้าพรรคได้ชี้แจงไป เพราะฉะนั้นจึงคิดว่าคณะกรรมการยุทธศาสตร์นี้จะมีบทบาททำงานตามที่คณะกรรมการบริหารได้มอบหมาย ด้วยความตั้งใจ ส่วนภารกิจสำคัญ จะต้องขยับจุดยืนพรรคเพื่อให้เป็นผู้เข้าสู้สนามแข่งขันที่สำคัญ เพื่อเป็นกำลังในการสร้างนโยบายแก้ไขปัญหาให้ประเทศ และเป็นกำลังสำคัญในการสร้างประชาธิปไตยให้ประเทศด้วย
วางยุทธศาสตร์ระยะสั้น-ระยะยาว
นายจาตุรนต์กล่าวต่อว่า ปกติยุทธศาสตร์พรรคการเมืองต้องเป็นเรื่องระยะยาว แต่ว่าการตั้งคณะนี้ขึ้นมาในช่วงเวลาที่รู้กันอยู่ว่าใกล้จะถึงวันเลือกตั้งในอีกไม่นานนัก เพราะฉะนั้นก็จะต้องทำงานผสมผสานระหว่างการวางยุทธศาสตร์ของพรรคที่เป็นระยะยาว และการวางยุทธศาสตร์เพื่อที่จะได้รับชัยชนะในการเลือกตั้ง ส่วนข้อดีของการตั้งคณะกรรมการนี้คือกำหนดชัดเจนว่า จะเป็นการสื่อสารโดยตรงกับคณะกรรมการบริหาร เลขาธิการพรรคมาเป็นเลขานุการคณะ หัวหน้าพรรคเป็นที่ปรึกษา เพราะฉะนั้นคณะนี้จะไม่ใช่กองบัญชาการใหม่ ไม่ใช่มีผู้บัญชาการใหม่แทนหัวหน้าพรรคหรือเลขาธิการพรรค แต่เราจะช่วยกันสร้างและกำหนดยุทธศาสตร์ รวมทั้งเสนอแนะต่อคณะกรรมการบริหาร และเสนอแนวทางการเมืองต่อพรรคและต่อสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งต่อไปจะตอบสนองต่อศูนย์อำนวยการเลือกตั้งและผู้สมัครรับเลือกตั้ง
ต้องรีบประเมินทิศทาง
นายจาตุรนต์ กล่าวด้วยว่า สิ่งที่เมื่อวานนี้คุยกันไปแล้วคือ ต้องทำงานแข่งกับเวลา ต้องรีบมีการประเมินทิศทางแนวทางการทำงานของพรรคในด้านต่าง ๆ รวมทั้งเรื่องของนโยบาย ต่อไปต้องดูเรื่องการเตรียมการเลือกตั้ง แต่ว่าจุดสำคัญคือ เราจะนำข้อดีจุดแข็งของพรรคเพื่อไทยกลับมาให้มีความชัดเจนขึ้นได้อย่างไร ที่สำคัญคือการเป็นพรรคที่มีบทบาทในการสร้างประชาธิปไตย และเป็นพรรคที่มีบทบาทในการสร้างนโยบายและนำนโยบายมาสู่การปฏิบัติ ซึ่งในครั้งนี้มีข้อดีคือ เรามีบุคลากรที่หลากหลายมากมาร่วม ไม่ใช่ผู้ที่เคยทำงานมานานเท่านั้น แต่ว่ายังมีนักการเมืองรุ่นใหม่ที่ประสบความสำเร็จในการทำงานในสภา และมีบุคลากรทีมงานทางวิชาการอีกเป็นจำนวนมากที่จะร่วมกันทำงาน
กำหนดบทบาทพรรค
ทั้งนี้จะเริ่มจากการประเมินบทบาทการทำงานในด้านต่าง ๆ นี้ จะใช้วิธีรวบรวมข้อมูล รับฟังความคิดเห็น และตัดสินใจโดยอาศัยพื้นฐานของข้อมูลข้อเท็จจริง เพราะฉะนั้นเมื่ออาศัยข้อมูลข้อเท็จจริง ก็จะรีบกำหนดแนวทางการเมืองของพรรค ว่าบทบาทของพรรคจะอยู่ตรงไหน ส่วนที่มีโพลบางแห่งออกมาว่าพรรคตามหลังพรรคอื่น เป็นเรื่องที่ถ้าเป็นรุ่นตนเอง รุ่นนายประเสริฐ เราจะไม่คุ้นสภาพนี้ เพราะว่าเราอยู่กับการทำโพลของพรรคที่เดินเข้าสู่การเลือกตั้งด้วยโพลที่พรรคเพื่อไทยนำมาตลอด เพราะฉะนั้นต้องรีบค้นหาว่าปัญหาอยู่ตรงไหน และต้องปรับปรุงอย่างไร ซึ่งเราเชื่อว่าความสามารถ ความรู้ ประสบการณ์ และความตั้งใจ รวมทั้งการใช้ระบบที่เป็นวิทยาศาสตร์อย่างมีประสิทธิภาพ จะทำให้พรรคเราขยับขึ้นมาสู่จุดที่เคยเป็น ก็คืออยู่ในจุดที่เป็นพรรคที่เป็นผู้เข้าแข่งขันที่สำคัญได้โดยเร็ว
ไม่เกินความสามารถของพท.
“ผมมีความเชื่อว่าเมื่อคณะกรรมการบริหารพรรคมีความตั้งใจ ผู้ที่อยู่กับพรรคมานานก็ดี นักการเมืองรุ่นใหม่ คนรุ่นใหม่ก็ดี มีความตั้งใจจริงจังที่จะช่วยกันให้พรรคประสบความสำเร็จในการเลือกตั้ง และประสบความสำเร็จในการแก้ปัญหาประเทศ เชื่อว่าพรรคเพื่อไทยจะมาอยู่ในจุดที่เป็นกำลังสำคัญในการสร้างประชาธิปไตยของประเทศ และเป็นกำลังสำคัญในการคิดและสร้างนโยบาย เพื่อตอบรับสถานการณ์ที่มีความพิเศษ มีประเด็นปัญหา มีโจทย์ที่ยากกว่าหลาย ๆ การเลือกตั้งที่ผ่านมา ภาระที่ยากเหล่านั้นไม่เกินความสามารถของพรรคเพื่อไทย”ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรค กล่าวในที่สุด
17 กรรมการยุทธศาสตร์พรรค
สำหรับคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทยมีจำนวน 17 คน ประกอบด้วย
ที่ปรึกษาคณะกรรมการยุทธศาสตร์ ประกอบด้วย นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์, นายภูมิธรรม เวชยชัย, นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ, และนายสมศักดิ์ เทพสุทิน
ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ นายจาตุรนต์ ฉายแสง
รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ นายชูศักดิ์ ศิรินิล, นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว, นายสุทิน คลังแสง, นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ
กรรมการคณะยุทธศาสตร์ นายแพทย์พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช, นายเกรียง กัลป์ตินันท์, นายสรวงศ์ เทียนทอง, นางมนพร เจริญศรี, นางสาวจิราพร สินธุไพร
กรรมการและเลขานุการ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง
และ กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ, นางสาวลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์