“ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า” ยืนยัน ไม่เคยสัญญามอบเก้าอี้รัฐมนตรีให้ใครล่วงหน้า ชี้ เป็นนักการเมืองอย่ากังวลซักฟอก ลั่น ให้เกียรติหลัง “สส.กานต์” ลูก “ชูวิทย์ กุ่ย” โผล่ร่วมโต๊ะภูมิใจไทย

เมื่อเวลา 14.45 น. วันที่ 17 พฤศจิกายน 2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม (กธ.) กล่าวถึงกระแสพรรคกล้าธรรมภายหลังลงพื้นที่ภาคใต้ว่า เราคงไม่พูดว่าดีหรือไม่ดี เอาเป็นว่าตนเองเดินจากสนามเข้าเวทีที่ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ระยะทาง 200 เมตร ใช้ระยะเวลาชั่วโมงเต็มๆ พี่น้องประชาชนให้กำลังใจ และขอถ่ายรูปกับตน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนฐานราก อยากให้ตนแก้ปัญหาให้พี่น้องประชาชน ไม่ใช่เป็นวลีไปวันๆ

ร.อ.ธรรมนัส ยังตอบคำถามถึงกรณีก่อนหน้านี้เคยสัญญาจะตั้งใครเป็นรัฐมนตรีล่วงหน้าหรือไม่ ว่า ไม่มี ไม่ใช่เรื่องง่าย อย่าถามเรื่องที่คนพูดแล้วเป็นไปไม่ได้ การจัดตั้งรัฐมนตรีต้องตรวจคุณสมบัติละเอียดยิบ ขั้นตอนของพรรคเราก็ละเอียดยิบ ไม่คิดว่าใครจะตั้งหรือคิดว่าจะเป็นแล้วได้เป็น

ส่วนกรณีเรื่องของนายชนนพัฒฐ์ นาคสั้ว สส.สงขลา พรรคกล้าธรรม จะมีผลต่อกระแสการเลือกตั้งของพรรคกล้าธรรมในภาคใต้หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส บอกว่า ไม่เกี่ยว พรรคเราทำงาน สิ่งสำคัญที่สุดคือการบังคับใช้กฎหมาย และเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เป็นเรื่องสำคัญที่สุด ใครผิดก็ว่าไปตามผิด

“คนที่มีคุณสมบัติลง สส. ตามรัฐธรรมนูญกำหนดชัดเจน ถ้ามีคุณสมบัติต้องห้ามก็ลงไม่ได้ อย่าไปคิดมาก อย่าไปสร้างวลีให้เกิดประเด็นกับสังคม ตอนนี้บ้านเมืองเราเดือดร้อนหลายเรื่อง อยากให้มองปัญหาประเทศชาติก่อน บางทีเราไปฟังเรื่องนู้นเรื่องนี้ไม่เกิดประโยชน์กับพี่น้องประชาชน”

...

ส่วนหากพรรคฝ่ายค้านจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้น ร.อ.ธรรมนัส บอกว่า เราเป็นนักการเมืองอย่าไปกังวลเรื่องพวกนี้ ตนเองอยู่การเมืองมาตั้งแต่ปี 2562 ยืนอยู่โต้ตอบได้ทุกเรื่อง ทุกประเด็น แต่ตนไม่ได้ไปท้าทาย แต่ถ้าเราถูกตรวจสอบภายใต้รัฐธรรมนูญ เราต้องพร้อมที่จะรับสถานการณ์ ไม่ใช่คนบางคนโดนหน่อย ร้อง ไม่ใช่ เราเป็นนักการเมืองต้องทำใจ

ร.อ.ธรรมนัส ยังตอบคำถามกรณีพรรคกล้าธรรมอาจจะถูกพุ่งเป้าโดนอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นพิเศษว่า อย่าไปคิดอย่างนั้น เพราะตนเองได้มอบหมาย น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ประธานยุทธศาสตร์พรรคกล้าธรรม ตั้งวอร์รูมและฝ่ายกฎหมายพิจารณาว่าเรื่องทั้งหมดเกิดอะไรขึ้น เพราะสังคมในเวลานี้ พรรคที่กำลังโตถูกโจมตีอย่างต่อเนื่องจากหลายภาคส่วน ซึ่ง 2-3 วันที่ผ่านมา ตนเองได้ลงพื้นที่ภาคใต้ ตนกลับมีความรู้สึกว่าประชาชนฝากความหวัง ตนจึงหยุดไม่ได้ ต้องเดินหน้าต่อ ตนเองเน้นย้ำเสมอว่า “เกียรติของทหารคือตายในสนามรบ เป็นนักการเมืองถ้าจะต้องตาย ต้องตายบนเวทีการเมือง เป็นเกียรติของนักการเมือง ไม่ต้องพูดเพราะ พูดสวย ไม่ใช่สไตล์ของตน”

ส่วนกรณี นายชูวิทย์ พิทักษ์พรพัลลภ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ยังอยู่กับพรรคกล้าธรรมหรือไม่ หลังปรากฏภาพ น.ส.สุดารัตน์ พิทักษ์พรพัลลภ สส.พรรคเพื่อไทย (พท.) บุตรสาว ร่วมวงกินข้าวกับพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ร.อ.ธรรมนัส ระบุว่า เมื่อสักครู่ก็ได้เจอกัน ตนเองให้เกียรติซึ่งกันและกัน คนจะอยู่หรือจะไปก็แล้วแต่การตัดสินใจของเขา อย่าไปบังคับ และอย่าเอาปัจจัยอะไรไปล่อเขา ไม่ใช่สไตล์ของตน อยู่กับตนต้องทำงานและไม่มีวันหยุด ถ้าอยู่ได้ก็อยู่ด้วยกัน

ส่วนเป้าหมายการเลือกตั้งครั้งต่อไป พรรคกล้าธรรมจะกวาดที่นั่ง สส. จนกลายเป็นพรรคขนาดใหญ่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส ตอบสั้นๆ ว่า “เดี๋ยวคอยดู” ก่อนเดินขึ้นตึกบัญชาการไปทันที