หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ขอบคุณผลโพล ดันอันดับ ปชป. พุ่ง ย้ำแข่งกับตัวเอง ชู 2 นโยบายหาเสียง บ้านเมืองสุจริต-เศรษฐกิจโต
วันที่ 17 พฤศจิกายน 2568 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงผลสำรวจความเห็นของประชาชนที่พบว่าพรรคประชาธิปัตย์มีคะแนนดีขึ้น ว่า ขอบคุณพี่น้องประชาชน แต่สิ่งเหล่านี้มีขึ้นและมีลงตลอดเวลา สำคัญที่สุดตอนนี้คือ การแข่งขันกับตัวเองและเวลาที่มีจำกัดมาก แต่มีงานที่ต้องทำอีกมาก ทั้งนโยบายพรรค การคัดตัวผู้สมัคร สส. ดังนั้นเรื่องโพลถือเป็นกำลังใจ แต่งานหนักรออยู่ข้างหน้าอีกมาก สำหรับนโยบายหลักที่จะชูในการเลือกตั้งครั้งหน้ามี 2 เรื่องหลัก ที่ตนคิดว่าสำคัญที่สุดสำหรับประเทศไทย คือ
1. ถ้าเราไม่สามารถทำให้บ้านเมืองเป็นบ้านเมืองที่สุจริตจริงๆ ปัญหาอื่นแทบแก้ไขไม่ได้ เพราะสิ่งนี้จะเป็นตัวบั่นทอนความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล ระหว่างสถาบัน และความไว้วางใจซึ่งกันและกัน นำมาซึ่งปัญหาสารพัดทั้งสังคมการเมืองและเศรษฐกิจ
2. ถ้าเราไม่สามารถทำให้เศรษฐกิจไทยกลับไปเติบโตได้เหมือนสมัยก่อน หากยังโตอยู่แค่ร้อยละ 1-2 ต่อเนื่องแบบนี้ เรื่องอื่นเราก็แก้ไม่ได้ เราจะไม่มีทรัพยากรมาดูแลผู้สูงอายุ นำมาสร้างระบบสวัสดิการที่มีความจำเป็นเพียงพอกับผู้คน หมายความว่า ต้องทำให้บ้านเมืองสุจริต เศรษฐกิจก็ต้องดี ซึ่งดีในที่นี้คือโตและกระจายอย่างทั่วถึง
ไม่หนักใจศึกสายเลือดคน ปชป. ย้ำแฟร์เพลย์ไม่ฟาวล์
ส่วนการเลือกตั้ง สส.กทม. ที่นายสกลธี ภัททิยกุล รองหัวหน้าพรรค ดูแลพื้นที่กรุงเทพมหานคร อาจจะต้องชนกับนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ ที่มีข่าวพรรคภูมิใจไทยจะให้คุมพื้นที่ กทม. นายอภิสิทธิ์ ระบุว่า ไม่พูดเรื่องฐานเสียง เราแข่งขันเสนอตัวให้คนกรุงเทพมหานคร ซึ่งสิ่งที่จะตอบโจทย์ทั้งคนกรุงเทพมหานครโดยเฉพาะ คือนโยบายบางเรื่องที่เกี่ยวข้องกับคนที่นี่ คนไม่กังวล ซึ่งนายสกลธีต้องทำหน้าที่อย่างเต็มที่ในฐานะรองหัวหน้าพรรคดูแล กทม. เราทราบตั้งแต่ต้นอยู่แล้วว่าเป็นจุดที่ยาก เราต้องแข่งขันกันแบบมิตรเต็มที่ แต่เราไม่เล่นฟาวล์อยู่แล้ว ส่วนหากมีอุบัติเหตุทางการเมืองยุบสภาก่อนไทม์ไลน์ปลายเดือน มกราคม 2569 เราก็พร้อม แต่จะเหนื่อยมากขึ้น ซึ่งวันที่ 18 พฤศจิกายน เราจะเริ่มประชุมกรรมการบริหาร (กก.บห.) อย่างเป็นทางการครั้งแรก หลังคณะกรรมการเลือกตั้ง รับรอง
...
ไม่หนักใจ เงินเทาฟอกขาวเล่นการเมือง มีแนวร่วมต้าน
ส่วนคำถามที่ว่าหนักใจหรือไม่เรื่องการเมืองสุจริต ซึ่งหลายฝ่ายเกรงว่าจะมีการใช้เงินจากการฟอกขาว เข้ามาใช้ในการเลือกตั้งครั้งหน้า นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนเองหนักใจน้อยลงกว่าเดิมมาก เพราะตั้งแต่ตนกลับเข้ามา ได้เจอผู้คนประชาชนคนธรรมดาไปจนถึงนักธุรกิจระดับสูง ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันหมดว่า ไม่ต้องการอยู่แบบนี้อีกแล้ว จึงหนักใจน้อยลงเพราะเรามีแนวร่วมของคนที่จะต่อสู้กับความไม่ถูกต้องเพิ่มมากขึ้นมาก