“วัชระ” โฆษกกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ โต้ “ภัทรพงษ์” สส.พรรคประชาชน ปมพบสารหนูในแม่น้ำโขง ยัน “สุชาติ” สั่งตั้งคณะทำงานติดตามเร่งแก้ปัญหาแล้ว ปัดหนีวงประชุมระดับนานาชาติ เหน็บทำการบ้านก่อน


วันที่ 16 พฤศจิกายน 2568 นายวัชระ กรรณิการ์ คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะโฆษกกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวถึงกรณีที่ นายภัทรพงษ์ ลีลาภัทร์ สส.เชียงใหม่ และรองโฆษกพรรคประชาชน (ปชน.) ให้ข่าวพบสารหนูในแม่น้ำโขง บริเวณพื้นที่จังหวัดเลย บึงกาฬ หนองคาย และนครพนม พร้อมทั้งยังกล่าวหาว่า นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ไม่สนใจปัญหา และหนีการประชุม ว่า สิ่งที่นายภัทรพงษ์พูดและกล่าวหานายสุชาติและกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ นั้น เป็นข้อมูลที่เป็นเท็จ และมีส่วนที่ถูกต้องน้อยมาก อันน่าจะเกิดจากการทำการบ้านที่ไม่ครบถ้วน

นายวัชระ ระบุต่อไปว่า เรื่องการตรวจพบสารหนูในบริเวณแม่น้ำสายต่างๆ ของประเทศ และบริเวณแม่น้ำโขงที่ไหลผ่านในหลายจังหวัดของภาคอีสานนั้น ก็เป็นข้อมูลที่ไม่ได้ปกปิดแต่อย่างใด หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องได้รายงานนายสุชาติ จนนำไปสู่การตั้งคณะทำงานเพื่อติดตามและแก้ไขปัญหาอย่างเข้มข้นในขณะนี้อยู่แล้ว รวมทั้งได้สั่งการให้แก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วนแล้วทั้งในระยะสั้นและระยะยาว

ส่วนเรื่องกรณีที่กล่าวหาว่านายสุชาติหนีการประชุมในระดับนานาชาติเรื่องแม่น้ำโขงนั้น จากการสอบถามผู้เกี่ยวข้องได้รับทราบว่าในการประชุมจะมีการแบ่งระดับการประชุมเป็นคณะในระดับต่างๆ คือในระดับเจ้าหน้าที่ ระดับผู้บริหาร และระดับสุดยอดคือระดับรัฐมนตรี โดยการประชุมครั้งล่าสุดยังไม่ใช่การประชุมในระดับรัฐมนตรีหรือระดับสุดยอด ฉะนั้น การกล่าวหาว่านายสุชาติหนีการประชุมจึงเป็นเรื่องที่เป็นเท็จและมีอคติต่อนายสุชาติ

...

นายวัชระ กล่าวอีกว่า ตนเชื่อมั่นโดยสุจริตว่านายภัทรพงษ์น่าจะทราบข้อมูลดังกล่าวเป็นอย่างดี และน่าจะรับรู้ว่าปัญหาเรื่องสารปนเปื้อนหรือสารพิษในแหล่งน้ำในระดับนานาชาติ เป็นเรื่องใหญ่ที่จะต้องแก้ไขร่วมมือกันพร้อมกันทุกประเทศ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในยุคของนายสุชาติ ไม่เคยเลยที่จะละเลย ตรงกันข้ามกลับกระตือรือร้นและมุ่งมั่นที่จะแก้ปัญหาอยู่ตลอดเวลา แม้ว่าจะต้องเจ็บตัวหรือโดนด่าฟรีแบบนี้ก็ตาม เรื่องแบบนี้ตนแนะนำนายภัทรพงษ์ ควรจะไปคุยกับ สส.ในจังหวัดที่พูดถึงเสียก่อนน่าจะดีกว่า ถ้าเป็นเรื่องจริงและมีผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่จริงๆ ตนมั่นใจว่า สส.เหล่านั้นคงไม่ปล่อยให้เกิดเรื่องกับประชาชนในเขตของเขาเช่นกัน.