เพื่อไทยพร้อมยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล เล็งจับนายกฯ ขึ้นบัญชีซักฟอก รอพิสูจน์คำพูดพรรคประชาชนจะตรงกับการกระทำหรือไม่ มั่นใจคะแนนนิยมพรรคกลับมา หลังยกเครื่องและเปิดหน้าแคนดิเดตนายกฯ
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 16 พฤศจิกายน 2568 นายศึกษิษฏ์ ศรีจอมขวัญ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงถึงความพร้อมพรรคเพื่อไทยในการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ว่า อยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลต่างๆ เพื่อเตรียมความพร้อมรอเปิดสมัยประชุมรัฐสภา โดยพรรคเพื่อไทยมีความพร้อมแน่นอน ขณะนี้กำลังรวบรวมรายชื่อในพรรค และจะพูดคุยกับพรรคร่วมฝ่ายค้านอื่นๆ ส่วนจะยื่นอภิปรายใครบ้างนั้น อย่างน้อยๆ นายกรัฐมนตรีในฐานะผู้นำสูงสุดต้องมีความรับผิดชอบสูงสุดอยู่แล้ว ส่วนรัฐมนตรีคนอื่นรอดูตามความเหมาะสม
ในคำถามเสียงของฝ่ายค้านเพียงพอที่จะล้มรัฐบาลได้หรือไม่นั้น โฆษกพรรคเพื่อไทย ระบุว่า ถ้านับดูตัวเลขแล้วเพียงพอ แต่ต้องรอดูสัญญาณหลายด้าน ข้อมูลเชิงประจักษ์ที่พรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมฝ่ายค้านสื่อสารไป เห็นค่อนข้างชัดว่ารัฐบาลนี้บริหารผิดพลาดจริงๆ แต่ในจุดนั้นรอดูความชัดเจนและความจริงใจของพรรคร่วมฝ่ายค้านว่าจะร่วมมือหรือไม่ ไม่ใช่แค่พรรคเพื่อไทยที่พูดว่ารัฐบาลบริหารงานผิดพลาด หลายพรรคร่วมฝ่ายค้านก็สื่อสารในหลายเรื่อง เช่น ปัญหาคอลเซ็นเตอร์ เรื่องเงินสีเทา เมื่อถึงเวลาโหวตก็รอดูว่าพรรคนั้นเวลาพูดอย่าง เวลาทำในสภาฯ จะเป็นอย่างไร
...
เมื่อถามว่าได้พูดคุยกับพรรคประชาชนเรื่องการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจแล้วหรือยัง นายศึกษิษฏ์ ตอบว่า เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2568 นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย คุยนอกรอบไปแล้ว แนวทางน่าจะเห็นตรงกัน ทุกพรรคร่วมฝ่ายค้านสื่อสารตรงกันหมดว่ารัฐบาลบริหารจัดการผิดพลาดอย่างไร ทุกพรรคมีข้อมูลแน่นอยู่แล้ว แต่จะประสานงานอย่างไรให้การดำเนินงานในสภาฯ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
ทางด้านคำถามว่า มองอย่างไรที่พรรคประชาชนแบ่งรับแบ่งสู้กับรัฐบาลพรรคภูมิใจไทย นายศึกษิษฏ์ ตอบว่า เป็นการแสดงความจริงใจของพรรคประชาชน สส.พรรคประชาชน สื่อสารชัดเจนรัฐบาลทำงานผิดพลาด บุคลากรและรัฐมนตรีหลายคนเกี่ยวโยงกับทุนสีเทาอย่างไร ต้องรอดูเมื่อพูดออกมาแล้ว การกระทำจะทำตามสิ่งที่พูดหรือไม่
ในตอนท้าย นายศึกษิษฏ์ ยังกล่าวถึงโพลสำรวจความนิยมของความนิยมที่พรรคเพื่อไทย มีคะแนนตามพรรคประชาชนในภาคอีสาน ภาคกลาง ว่า ที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทยแถลงทั้งการยกเครื่องพรรค การสื่อสารของพรรค การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างภายในพรรค และที่สำคัญตัวนโยบายและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค ยืนยันว่าหากมีการเปิดตัวทั้งสองเรื่องดังกล่าวนี้ เชื่อมั่นของประชาชนต่อพรรคกลับคืนมาอีกครั้งแน่นอน.