“จาตุรนต์ ฉายแสง” ชี้สูตรเลือก กมธ.ยกร่าง 20 หยิบ 1 อาจเป็นแค่ “หวยล็อก” ไม่ใช่ยาวิเศษอีกต่อไป เหตุไม่มีประชาชนคัดกรองมาก่อน แนะทบทวนวิธีการคัดเลือก
วันที่ 15 พ.ย. 2568 นายจาตุรนต์ ฉายแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย(พท.) ในฐานะกรรมาธิการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม รัฐสภา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า 20 หยิบ 1 อาจไม่ใช่ยาวิเศษเสียแล้ว เดิมในร่างหลักของพรรคประชาชนกำหนดให้มีการสมัครเป็นกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ โดยให้ผู้ที่ต้องการเป็นกรรมาธิการสมัครเป็นบัญชีรายชื่อเป็นกลุ่มๆ ใช้ประเทศเป็นเขตเลือกตั้ง แล้วให้ประชาชนทั่วประเทศเลือกมาก่อนให้ได้ 70 คนที่ได้คะแนนสูงสุด แล้วให้รัฐสภาเลือกให้เหลือ 35 คนโดยใช้ “สูตร 20 หยิบ 1” ที่หวังว่าจะได้กรรมาธิการที่ประชาชนทั่วประเทศเลือกกันมาแล้วชั้นหนึ่ง แล้วสูตร 20 หยิบ 1 จะทำให้ได้กรรมาธิการกระจายไปตามสัดส่วนของสมาชิกรัฐสภา เพื่อไม่ให้เสียงข้างมากได้ไปหมด
สูตร 20 หยิบ 1 นี้ ความจริงคล้ายกับวิธีการตั้งกรรมาธิการในสภาที่ต้องการให้แต่ละพรรคการเมืองเสนอตัวแทนตามสัดส่วนของจำนวน สส.ของแต่ละพรรค พรรคใหญ่ก็จะมีกรรมาธิการมาก พรรคเล็กก็มีกรรมาธิการน้อย แต่วิธีปกติในรัฐสภาไม่ได้เปิดรับสมัคร แต่ใช้วิธีแต่ละพรรคเสนอชื่อตามจำนวนที่ต้องการไปเลย
แต่ร่างหลักของพรรคประชาชนได้เอาสูตรแบบนี้มาใช้กับการเลือกกรรมาธิการร่างรัฐธรรมนูญที่ต้องการผสมผสานกับการเลือกตั้งโดยประชาชนก่อน ข้อดีจึงอยู่ที่เปิดให้ประชาชนสมัครกันมากๆได้ และให้ประชาชนทั่วประเทศเลือกให้เหลือ 70 คน ซึ่งจะมาจากประชาชนและไม่มีใครครอบงำได้ง่ายๆ
20 หยิบ 1 จึงหยิบจาก 70 ที่มาจากการเลือกตั้งของคนทั้งประเทศเสียก่อน แต่ขณะนี้ “การเลือกตั้งดังกล่าวตกไปแล้ว” ในชั้นกรรมาธิการ
...
วิธีที่ผ่านการโหวตในชั้นกรรมาธิการ จะออกมาในรูปแบบที่ขั้นแรกผู้สมัครทั้งหมดที่ได้รับการตรวจสอบคุณสมบัติแล้ว จะกี่ร้อย กี่พัน หรือกี่หมื่นคนก็ตาม จะถูกส่งไปในชั้นที่ 2 คือรัฐสภาเลือกให้เหลือ 35 คน โดยใช้สูตร 20 หยิบ 1
เมื่อเป็นอย่างนี้ “สูตร 20 หยิบ 1” อาจไม่ใช่วิธีที่ทำให้กรรมาธิการมีความหลากหลายและยังไม่สามารถป้องกันปัญหาการที่คณะกรรมาธิการถูกกำหนดโดยฝ่ายเสียงข้างมากของรัฐสภาอยู่ดี เพราะไม่มีการคัดกรองมาก่อนจากการเลือกตั้งของประชาชน ที่สำคัญจะมีปัญหาที่ประชาชนอาจรู้สึกว่าจะสมัครเป็นกรรมาธิการยกร่างกันไปทำไมในเมื่อ 35 กลุ่ม กลุ่มละ 20 คนนั้นเขาอาจจะมีคนในใจหรือเป็นผู้ที่เขาต้องการให้เป็นกรรมาธิการไปสมัครไว้แล้ว หรือพูดอีกแบบคือเป็น “หวยล็อก” ไปแล้ว
กลายเป็น 20 เสนอ 1 คล้ายกับการเลือกกรรมาธิการในสภาผู้แทนราษฎรตามปกติ การที่หวังว่าเมื่อเปิดรับสมัครแล้วจะมีประชาชนมาสมัครกันมากๆ แต่เมื่อเป็นแบบนี้จะมีคนมาสมัครกันหรือ?
ผมจึงยังเป็นห่วงว่าวิธีการให้ได้มาซึ่งคณะกรรมาธิการร่างรัฐธรรมนูญแบบนี้ สุดท้ายแล้วอาจจะมีคนมาสมัครน้อยมาก แล้ว 20 หยิบ 1 ก็จะไม่ได้มีประโยชน์มากอย่างที่คิดไว้ และไม่ทำให้การได้มาของคณะกรรมาธิการเป็นที่ยอมรับของสังคมนะครับ
ถ้าคณะกรรมาธิการเราเห็นปัญหาร่วมกัน ก็คงต้องช่วยกันคิดหาทางแก้ปัญหา ซึ่งถ้าจำเป็นผมก็เห็นว่าต้องทบทวนวิธีการคัดกรองครับ