“สิริพงศ์” ยัน สหรัฐฯ ระงับเจรจาภาษี ไม่เกี่ยวกับปมไม่พอใจนายกฯให้สัมภาษณ์ คุย “ทรัมป์” เรื่องนี้แล้ว มีท่าทีที่เข้าใจ โต้ “ทูตรัศม์” เป็นฝั่งตรงกันข้ามจะพูดอะไรก็ได้ แต่รัฐบาลขอแจงตามข้อเท็จจริง ไม่ได้พูดตามทัศนคติทางการเมือง
วันที่ 15 พ.ย. 2568 นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กับไทยรัฐออนไลน์ ถึงกรณี ที่สหรัฐฯ ขอระงับการเจรจากรอบความตกลงการค้าต่างตอบแทนระหว่างไทย - สหรัฐฯ เป็นการชั่วคราว และจะกลับมาเจรจาความตกลงดังกล่าวอีกครั้ง เมื่อฝ่ายไทยให้คำมั่นว่า จะปฏิบัติตาม Joint Declaration (ปฏิบัติตามปฏิญญาสันติภาพไทย-กัมพูชา) เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย จะพูดคุยทางโทรศัพท์กับ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกานั้น นายสิริพงศ์ ยืนยันว่า นายกฯ ทราบเรื่องนี้ และได้หารือกับประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา และได้อธิบายเรื่องราวให้เข้าใจแล้ว และประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกายืนยันว่าไม่ต้องการแทรกแซงใคร ซึ่งหลังพูดคุยกัน ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาก็มีท่าทีที่เข้าใจ พร้อมย้ำว่าทางทีมเจรจาภาษียังเดินหน้าต่อไป
“คือมันมีหนังสือมา แต่หนังสือนั้นท่านนายกฯ ได้แก้ไขไปแล้ว โดยการเจรจากับทรัมป์” นายสิริพงศ์ กล่าวย้ำ
เมื่อถามว่าทางสหรัฐฯ ไม่ได้โกรธหรือไม่พอใจต่อท่าทีของนายกฯ ที่ให้สัมภาษณ์เรื่องสันติภาพไทย-กัมพูชาจบแล้ว และขอฉีกปฏิญญา 4 ข้อ ไม่ต้องรายงาน ทรัมป์ เพราะเราเป็นประเทศอธิปไตยไม่ต้องรายงานใครหรือไม่ นายสิริพงศ์ ยืนยันว่า ไม่มี และไม่เกี่ยวกับการที่นายกฯ ออกมาให้สัมภาษณ์ เพราะการให้สัมภาษณ์ของนายกฯ ไม่ใช่การพูดคุยบนโต๊ะ และไม่ใช่การแถลงข่าวจากฝั่งรัฐบาล ที่เป็น official announcement
...
เมื่อถามถึงกรณีที่ นายรัศม์ ชาลีจันทร์ อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศ ออกมาแสดงความเห็นว่านายกฯ กล่าวในเชิงท้าทายสหรัฐฯ จนนำไปสู่การระงับการเจรจา นายสิริพงศ์ กล่าวว่า เป็นฝั่งตรงกันข้ามจะพูดอย่างไรก็ได้ แต่ตนเองพูดตามข้อเท็จจริง ไม่ได้พูดตามทัศนคติ
นายสิริพงศ์ ยังย้ำว่า ไทยยังคงเดินหน้าเจรจาภาษีการค้ากับสหรัฐฯ ต่อ โดยเมื่อสักครู่ตนเองก็เพิ่งวางสายกับนางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ก็ยังย้ำว่ายังเดินหน้าพูดคุยกันอยู่ และไม่ได้ติดขัดอะไร
“คือผมก็งงว่า เวลาไปพาดหัว ทำไมไปพาดหัวแค่ระงับ เพราะมีการอธิบายความต่อข้างล่าง ว่าเขามีจดหมาย กต.ก็ผิดหวังกับท่าทีเขา แต่ท่านนายกฯ กับ ทรัมป์ ก็ได้ไปคุยกันแล้ว ซึ่งผลมันก็ออกมาดี แต่กลายเป็นว่าไปเล่นการเมืองกันหมดเลย คือของทูตรัศม์ เขาอาจจะเป็นทูตมาก่อน แต่มันปฏิเสธไม่ได้ว่าสิ่งที่ทูตรัศม์พูดมันเป็นทัศนคติทางการเมืองมากกว่า” นายสิริพงศ์ กล่าว