โฆษก กต. เผย ไทยผิดหวัง ท่าทีผู้แทนการค้าสหรัฐฯ หลังระงับการเจรจาลดภาษีนำเข้า จนกว่าจะปฏิบัติตามปฏิญญาไทย - กัมพูชา ขณะที่นายกฯ ย้ำกับ “ทรัมป์” ต้องแยกเรื่องความมั่นคงกับการค้าออกจากกัน
วันที่ 15 พ.ย. 2568 ที่กระทรวงการต่างประเทศ นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงการเจรจาภาษีการนำเข้าสินค้ากับสหรัฐอเมริกา ว่า เมื่อคืนนี้ (14 พ.ย.) ไทยได้รับการแจ้งจากรองผู้แทนการค้าของสหรัฐฯ ว่า สหรัฐฯ ขอระงับการเจรจากรอบความตกลงการค้าต่างตอบแทนระหว่างไทย - สหรัฐฯ เป็นการชั่วคราว และจะกลับมาเจรจาความตกลงดังกล่าวอีกครั้ง เมื่อฝ่ายไทยให้คำมั่นว่า จะปฏิบัติตาม Joint Declaration (ปฏิบัติตามปฏิญญาสันติภาพไทย-กัมพูชา) และหวังว่าจะหาทางออกเรื่องนี้ได้โดยเร็ว
นายนิกรเดช กล่าวต่อว่า ไทยมีความผิดหวังในท่าทีจากผู้แทนการค้าสหรัฐฯ โดยไทยได้ยืนยันมาโดยตลอดว่า เรื่องความมั่นคง และความปลอดภัย โดยเฉพาะประเด็นที่เป็นทวิภาคี ระหว่างไทยกับกัมพูชา ต้องแยกออกจากประเด็นการค้า ซึ่งก็เป็นประเด็นทวิภาคีที่เป็นผลประโยชน์ร่วมของไทยกับสหรัฐฯ
ขณะที่ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ก็ได้ย้ำกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในการหารือทางโทรศัพท์เมื่อคืนนี้ ว่า สหรัฐฯ มิได้ประสงค์จะแทรกแซงการแก้ไขปัญหาของทั้งสองประเทศ ตามกลไกทวิภาคีที่มีอยู่ จึงขอย้ำว่า สำหรับประเทศไทย ในประเด็นการค้าระหว่างประเทศ และมาตรการทางภาษีของประเทศที่สาม เป็นเรื่องนโยบายทางเศรษฐกิจที่จะมีการพิจารณาโดยรอบคอบในกรอบความร่วมมือทางการค้า และคำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศคู่เจรจาเป็นสำคัญ โดยรัฐบาลยังคงมีนโยบายขยายโอกาสทางเศรษฐกิจผ่านการเจรจา และข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) การเปิดตลาดใหม่ๆ และการเข้าร่วมกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศ เพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลกของไทย
...
ทั้งนี้ ไทยยังคงยินดี และตระหนักในบทบาทที่สร้างสรรค์ของสหรัฐฯ ในการสนับสนุนให้ไทยและกัมพูชาลดความตึงเครียดระหว่างกัน เพื่อนำไปสู่สันติภาพที่ยั่งยืนตามที่ปรากฏในการหารือระหว่างนายอนุทิน และนายโดนัลด์ ทรัมป์ โดยไทยจะเดินหน้าบนผลประโยชน์ของประเทศไทยเป็นสำคัญที่มุ่งสู่สันติภาพ
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงการรับมือในการจัดเก็บภาษีของสหรัฐฯ หลังจากนี้ นายนิกรเดช ระบุว่า นายอนุทิน ชี้แจงไปยังประธานาธิบดีสหรัฐฯ ว่าจุดยืนของไทยมีความตั้งใจในการแยกแยะเรื่องชายแดน และการเจรจาการค้ากับสหรัฐอเมริกา โดยไทยมีประสงค์จะขอให้สหรัฐฯ แยกเรื่องนี้ออกด้วยเช่นกัน และมุ่งมั่นที่จะเจรจาการค้าเสรีกับสหรัฐฯ ต่อ ทั้งจะพยายามใช้กลไกทวิภาคีหารือกับกัมพูชา
นายนิกรเดช เปิดเผยอีกว่า ประธานาธิบดีสหรัฐฯ แสดงถึงความเข้าใจหลังจากที่นายกรัฐมนตรีได้แจ้งเรื่องนี้ให้ทราบ รวมถึงมีการรับปากที่จะไปพูดคุยกับผู้แทนการค้าสหรัฐฯ อีกทั้งจากการที่นายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ว่าหากจัดการทุ่นระเบิดได้ จะขอลดภาษี ซึ่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ก็ตอบรับแบบเชิงหยอกล้อว่าจะไปทำให้ด้วยความยินดี
ส่วนการดำเนินการต่อจากนี้ นายนิกรเดช ระบุว่า กระทรวงเศรษฐกิจ จะดำเนินการเจรจาภาษีต่อไป อีกทั้งกระทรวงการต่างประเทศก็หวังว่าการเจรจากับประธานาธิบดีสหรัฐฯ และนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย จะช่วยกดดันให้กัมพูชาเข้าใจถึงเป้าประสงค์ของประเทศไทยที่วางไว้