ผลสำรวจของผู้อ่านไทยรัฐออนไลน์ ชี้คะแนนความนิยมของณัฐพงษ์ อยู่ที่ 31.12 เปอร์เซ็นต์ ท่ามกลางเสียงของคนที่ยังไม่ตัดสินใจ และไม่มีคนเหมาะสม รวมกันสูงถึง 29 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่พรรคประชาชนนำโด่ง 37.01 เปอร์เซ็นต์
ผลสำรวจของ Thairath Poll ซึ่งได้สำรวจความนิยมของพรรคการเมืองและแคนดิเดตนายกฯ ในมุมมองผู้อ่านไทยรัฐออนไลน์ ประจำเดือนพฤศจิกายน 2568 ระหว่างวันที่ 4 พฤศจิกายน จนถึง 15 พฤศจิกายน 2568 โดยมีผู้ตอบแบบสอบถามกว่า 36,000 คน พบว่าคะแนนนิยมในตัวบุคคล และพรรคการเมืองยังคงเทไปที่พรรคประชาชนอย่างมีนัยสำคัญ แต่ในขณะเดียวกัน กลุ่มผู้ที่ยังไม่ตัดสินใจและไม่เลือกผู้สมัครคนใดยังคงมีสัดส่วนที่สูงไม่น้อย
ณัฐพงษ์นำนายกฯ แต่กลุ่มไม่เลือกใครก็สูง
ในคำถามที่ถามว่า บุคคลที่คุณสนับสนุนอยากให้เป็นนายกรัฐมนตรี จากผู้ตอบแบบสอบถาม 30,495 คน ปรากฏว่า
อันดับ 1 นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ 31.12 เปอร์เซ็นต์ (9,460 คะแนน)
อันดับ 2 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ 11.01 เปอร์เซ็นต์ (3,347 คะแนน)
อันดับ 3 พลเอกรังษี กิติญาณทรัพย์ 8.86 เปอร์เซ็นต์ (2,693 คะแนน)
ประเด็นที่น่าจับตาคือ กลุ่มที่ยังไม่ตัดสินใจ มีสัดส่วน 14.92 เปอร์เซ็นต์ (4,537 คะแนน) และกลุ่มที่เห็นว่า ไม่มีผู้ที่เหมาะสม อยู่ที่ 14.09 เปอร์เซ็นต์ (4,282 คะแนน) ซึ่งเมื่อรวมทั้งสองกลุ่มนี้เข้าด้วยกัน จะมีสัดส่วนสูงถึง 29.01 เปอร์เซ็นต์ ถือเป็นกลุ่มที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสองรองจากนายณัฐพงษ์
พรรคประชาชน ทิ้งห่างเพื่อไทย กว่าเท่าตัว
...
ในส่วนของคะแนนนิยมพรรคการเมือง จากผู้ตอบ 36,085 คน ผลสำรวจชี้ว่า พรรคประชาชนมีคะแนนนำพรรคอันดับสองก็คือพรรคเพื่อไทยมากกว่าเท่าตัว
อันดับ 1 พรรคประชาชน 37.01 เปอร์เซ็นต์ (13,319 คะแนน)
อันดับ 2 พรรคเพื่อไทย 15.60 เปอร์เซ็นต์ (5,614 คะแนน)
อันดับ 3 พรรคประชาธิปัตย์ 10.36 เปอร์เซ็นต์ (3,727 คะแนน)
ขณะที่กลุ่มยังไม่ตัดสินใจ มีสัดส่วนอยู่ที่ 8.52 เปอร์เซ็นต์ (3,066 คะแนน)
อย่างไรก็ตาม ผลสำรวจครั้งนี้มีข้อสังเกตด้านประชากรศาสตร์ หรือ Demographics ที่สำคัญ กล่าวคือ กลุ่มผู้ตอบแบบสอบถามมีความเอนเอียงไปในบางพื้นที่และบางกลุ่มอายุอย่างชัดเจน โดยในด้านภูมิภาค ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ 56.69 เปอร์เซ็นต์ อาศัยอยู่ในภาคกลาง (รวม กทม. ตะวันออก และตะวันตก) ขณะที่ภาคอีสานมีสัดส่วน 18.70 เปอร์เซ็นต์ ภาคเหนือ 12.91 เปอร์เซ็นต์ และภาคใต้ 11.70 เปอร์เซ็นต์
ต่อไปคือด้านอายุ ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผู้ใหญ่ โดยกลุ่มอายุ 46-59 ปี 33.01 เปอร์เซ็นต์ และกลุ่ม 60 ปีขึ้นไป 28.95 เปอร์เซ็นต์ เมื่อรวมกันมีสัดส่วนสูงถึง 61.96 เปอร์เซ็นต์ ของผู้ตอบทั้งหมด อายุ 36-45 ปี จำนวน 17.08 เปอร์เซ็นต์ 26-35 ปี อยู่ที่ 12.91 เปอร์เซ็นต์ และ 18-25 ปีน้อยที่สุด 8.05 เปอร์เซ็นต์