ตัวแทนพรรคการเมืองใหญ่เห็นตรงกัน ปัญหาความรุนแรงต้องถูกมองเป็นเรื่องทางเศรษฐกิจและความมั่นคงของประเทศ ชี้ทุกพรรคต้องมีนโยบายตรงกันเพื่อขับเคลื่อนระยะยาว


วันที่ 13 พฤศจิกายน 2568  ที่โรงแรมทีเค พาเลซ กรุงเทพฯ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับมูลนิธิเพื่อนหญิง จัดกิจกรรมเสวนาหัวข้อ “How to..นักการเมืองหญิง ร่วมผลักดันท้องถิ่นชุมชนจัดการความรุนแรงในครอบครัว 24 ชม.” โดยมีตัวแทนจาก 4 พรรคการเมืองเข้าร่วม

นางภรณี ภู่ประเสริฐ รองผู้จัดการกองทุน สสส. เปิดเผยว่า สถานการณ์ความรุนแรงในสังคมไทยยังคงเพิ่มขึ้น ส่วนใหญ่เกิดจากการทำร้ายร่างกาย และมีสาเหตุมาจากยาเสพติด ความโกรธ หึงหวง และปัญหาสุขภาพจิต ซึ่ง สสส. มุ่งผลักดันให้ปัญหานี้เป็นประเด็นสาธารณะผ่านยุทธศาสตร์ 5 ด้าน เพื่อสร้างความตระหนักและป้องกันความรุนแรงบนฐานเพศอย่างยั่งยืน

น.ส.ธนวดี ท่าจีน ผู้อำนวยการมูลนิธิเพื่อนหญิง กล่าวว่า มูลนิธิฯ เตรียมนำข้อมูลจากการทำงานในพื้นที่นำร่อง 4 จังหวัด มาถอดบทเรียนเพื่อพัฒนากลไกคุ้มครองและบำบัดฟื้นฟูผู้ถูกกระทำ พร้อมเสนอข้อเสนอเชิงนโยบาย 7 ข้อ เพื่อแก้ไขปัญหาเชิงระบบ

น.ส.ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ สส.พรรคประชาชน ชี้ว่าการแก้ไขต้องเริ่มจากพรรคการเมืองที่เห็นความสำคัญตรงกัน การมี สส. หญิงเพิ่มขึ้นจะช่วยผลักดันนโยบายได้เร็วขึ้น และเห็นว่าควรบรรจุเรื่องนี้ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ พร้อมรับข้อเสนอจากเวทีไปหารือเพื่อกำหนดเป็นนโยบายหาเสียงครั้งหน้า

น.ส.รัชดา ธนาดิเรก สส. พรรคภูมิใจไทย ย้ำว่ารัฐบาลให้ความสำคัญ โดยตั้งแต่สมัยนายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็น รมว.มหาดไทย ได้นำร่องอบรมให้ผู้ว่าฯ และนายอำเภอเปลี่ยนจาก “ผู้เห็น เป็นผู้ห่วง” และพร้อมสนับสนุนในระยะยาว แต่สิ่งสำคัญคือทุกพรรคการเมืองต้องมีนโยบายตรงกัน

...

ทพญ.ศรีญาดา ปาลิมาพันธ์  สส.พรรคเพื่อไทย เห็นด้วยเรื่องนี้ต้องเป็นวาระแห่งชาติ โดยพรรคเพื่อไทยให้ความสำคัญและมองว่า ความยากจนเป็นสาเหตุหนึ่งของความรุนแรง จึงส่งเสริมการทำงานของสตรี ลดภาระค่ารักษา และดูแลสุขภาพจิต พร้อมเสนอการแก้ปัญหาต่อสภาฯ

น.ส.รัดเกล้า สุวรรณคีรี สส.พรรคประชาธิปัตย์ เสนอให้ปรับมุมมองความรุนแรงให้เป็นเรื่องที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ เพราะคนคือทรัพยากรสำคัญ เรียกร้องให้ทุกพรรคมีนโยบายเดียวกัน และเสนอ 3 ข้อหลัก คือ ตั้งงบฯ ดูแลปัญหาทางเพศ, ใช้ Big Data, และโควต้าให้ผู้เชี่ยวชาญ

มูลนิธิเพื่อนหญิงและเครือข่ายสตรี 4 ภาค ได้ยื่นข้อเสนอ 7 ข้อ ต่อ 4 พรรคการเมือง โดยเรียกร้องให้ ผลักดันปัญหาความรุนแรงในครอบครัวเป็น “วาระแห่งชาติ” พร้อมเร่งบูรณาการการทำงาน เพิ่มงบประมาณและบุคลากร รวมถึงการบำบัดผู้กระทำความรุนแรง

นอกจากนี้ ยังเรียกร้องให้เร่งผลักดัน ร่าง พ.ร.บ. คุ้มครองผู้ถูกกระทำความรุนแรงในครอบครัว (ฉบับภาคประชาชน) ที่มีผู้ร่วมลงชื่อกว่า 26,000 ราย เพื่อยุติการยอมความกับผู้กระทำผิด และสร้างสังคมปลอดภัยสำหรับเด็กและสตรีอย่างยั่งยืน