“วรชัย” แก้วาทกรรม ปชน. มีเทาได้เพราะมีส้ม ชี้ ประชาชนร้องยี้กับสแกมเมอร์ที่มีข่าวพัวพันนักการเมือง “ฉัตริน” ซัดรัฐบาลถนัดเซ็น MOU ไม่เร่งใช้กฎหมาย อย่าเพิ่งรีบอวดผลงาน ยังมีผู้เสียหายทุกวัน
วันที่ 9 พฤศจิกายน 2568 นายวรชัย เหมะ อดีต สส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีพรรคประชาชน ออกสโลแกน “มีเทาไม่มีเรา” ว่า ขณะนี้ประชาชนกำลังร้องยี้กับสแกมเมอร์ที่มีข่าวพัวพันมาถึงนักการเมือง การที่พรรคประชาชนออกสโลแกนเช่นนี้ เป็นวาทกรรมเพื่อดึงคะแนนผู้สนับสนุนนำไปสู่การเลือกตั้งที่จะมีขึ้นไม่กี่เดือนข้างหน้า ใช้สถานการณ์เหมือนกับการเลือกตั้งที่ผ่านมา ที่ใช้วาทกรรมว่า “มีเราไม่มีลุง” ขณะนั้นคนเบื่อเรียกร้องประชาธิปไตย เบื่อลุง ต้องการคนใหม่ๆ เข้ามาสู่การเมือง
นายวรชัย เผยต่อไปว่า วันนี้ปัญหาสแกมเมอร์เป็นปัญหาใหญ่ระดับโลก และเกี่ยวพันถึงประเทศไทย มีข่าวลุกลามไปถึงนักการเมือง พรรคประชาชนจึงหยิบฉวยโอกาส เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นมานานแล้ว และพรรคประชาชนก็เคยหยิบมาอภิปราย รู้ดีว่าใครเป็นอย่างไร ใครคือเทาที่ว่า ย้อนกลับไปไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เราเห็นการลงนาม MOA ของส้มและน้ำเงิน ส้มรู้ดีใครจะมาร่วมรัฐบาล มีเทาหรือไม่มีเทา ถ้าบอกว่ามีเทาไม่มีเรา หากคนในรัฐบาลมีเทาอยู่ทั้งที่ส้มก็รู้อยู่แก่ใจแล้วผลักดันให้ได้เป็นรัฐบาล แบบนี้ตนขอเรียกว่า วันนี้มีเทาได้เพราะมีส้ม
“คงจำกันได้ก่อนล้มรัฐบาลพรรคเพื่อไทย สมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ออกมาพูดว่าจะล้มรัฐบาล และคนออกมาปล่อยข่าวว่ามีการระดมทุนถึง 2 พันล้านบาทเพื่อล้มรัฐบาล ตั้งรัฐบาลใหม่ ที่บอกว่ามีเทาไม่มีเราก็อยากให้ส้มไปตรวจสอบตรงนี้ด้วยว่าเงิน 2 พันล้านนั้นไปอยู่ที่ไหน ให้ใครเพื่อใช้ทำอะไร ถ้าอ้างตัวว่ามีเทาไม่มีเรา ก็ควรเอาเรื่องนี้มาบอกให้ประชาชนเห็นด้วย”
...
ทางด้าน นายฉัตริน จันทร์หอม อดีตรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ประจำนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลออกมาประกาศจับสแกมเมอร์ที่มีเงินหมุนเวียนต่อปีได้ 35,000 ล้านบาท แล้วเหน็บว่าทำได้ดีกว่ารัฐบาลที่ทำได้แค่ 14,500 ล้านบาท ว่า มูลค่าความเสียหายที่ลดลง ไม่ใช่แค่เอายอดเงินหมุนในบัญชีม้ามานับโชว์ ต้องเทียบที่ความเสียหายของประชาชน ถามง่ายๆ ช่วงไหนที่คุณได้รับ SMS หลอก หรือสายจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์น้อยที่สุด ก่อนรัฐบาลเพื่อไทย ระหว่างรัฐบาลเพื่อไทย หรือหลังจากนั้น คำตอบชัดอยู่แล้ว พอเรื่องนี้เป็นกระแสรัฐบาลก็ออกมาขึงขังเซ็น MOU อย่างยิ่งใหญ่ วันที่ 10 พฤศจิกายน 2568 ก็จะบินไป อ.แม่สอด จ.ตาก ส่งคนอินเดียที่ลักลอบเข้าเมืองกลับประเทศ ซึ่งถ้าท่านไม่บินไป เขาก็กลับเองได้
นายฉัตริน ระบุต่อไปว่า รัฐบาลนี้ถนัดเซ็น MOU และ MOA แต่ผลงานจริงยังไม่เห็น ที่เห็นสานต่อจากรัฐบาลที่แล้วก็คือการประชุมตำรวจอาเซียน เพื่อผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางการปราบสแกมเมอร์ของภูมิภาค แต่สแกมเมอร์ที่เสนอเงิน 40 ล้านบาทให้ นายไชยชนก ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ยังไม่ถูกดำเนินคดีใดๆ ทั้งๆ ที่เกินเส้นตายมานานแล้ว ยังไม่มีการยึดทรัพย์และดำเนินคดีกับเครือข่ายสแกมเมอร์ ที่ทั้งสหรัฐอเมริกา อังกฤษ สิงคโปร์ ฮ่องกง ไต้หวัน หรือแม้แต่กัมพูชาเองก็ดำเนินการ ทำให้ไทยกลายเป็นตัวตลกในสายตาโลก อีกทั้งยังช้ากับการออกกฎหมายลูก และไม่บังคับใช้ พ.ร.ก.กำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ที่รัฐบาลเพื่อไทยทำไว้ เพื่อนำเงินมาคืนผู้เป็นเหยื่อ ดังนั้น รัฐบาลจึงอย่าเพิ่งรีบอวดผลงาน เพราะยังมีผู้เสียหายอยู่ทุกวัน.