2 รัฐมนตรีจูงมือวันหยุดดูสถานการณ์น้ำฉะเชิงเทรา เร่งติดตั้งเรือผลักดันน้ำระบายลงทะเล ชี้รัฐบาลต้องเร่งวางรากฐานแก้ปัญหาน้ำอย่างยั่งยืน คาดโทษจ่ายเงินเยียวยาช้า
วันที่ 9 พฤศจิกายน 2568 นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการ อุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม พร้อมด้วยพล.ท.อดุลย์ บุญธรรมเจริญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ลงพื้นที่วัดสุทธาวาส ต.คลองหลวงแพ่ง อ.เมืองฉะเชิงเทรา เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำและแนวทางการระบายน้ำในพื้นที่ทุ่งเจ้าพระยาฝั่งตะวันออก
พล.ท.อดุลย์กล่าวว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้เพื่อติดตามความคืบหน้าการติดตั้งเรือผลักดันน้ำ โดยกำหนดจุดติดตั้งไว้แล้วรวม 10 จุด และเตรียมพร้อมติดตั้งเพิ่มเติมหากมีคำสั่ง โดยแบ่งเป็นฝั่งตะวันออก 24 เครื่อง และฝั่งตะวันตก 34 เครื่อง รวมทั้งหมด 58 ลำ
ด้านนายสุรศักดิ์ เปิดเผยว่า การติดตั้งเรือผลักดันน้ำทั้งหมดจะช่วยเร่งระบายน้ำลงสู่ทะเลได้รวดเร็วขึ้น ราว 5,000,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน ซึ่งได้รับรายงานว่าสถานการณ์น้ำจะดีขึ้นเนื่องจากปริมาณฝนตกซ้ำลดลง อย่างไรก็ตามต้องเร่งแก้ปัญหาและวางรากฐานในระยะยาวด้านน้ำอย่างยั่งยืน เพราะรัฐบาลนี้อยู่มีเวลา 4 เดือน หรืออาจเร็วกว่านั้น ทำอะไรได้ก็ต้องทำ ซึ่งการวางรากฐานระยะยาวแก้ไขปัญหาน้ำเข้า ครม.ทันในรัฐบาลนี้ก็ต้องเข้า เพื่อแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน
พลโท อดุลย์กล่าวอีกครั้งว่า นายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำเรื่องการแจกถุงยังชีพทุก 7 วัน และเรื่องเงินเยียวยาครัวเรือนละ 9,000 บาท ซึ่งส่วนใหญ่ได้รับเงินแล้ว อย่างไรก็ตามในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีนายกรัฐมนตรีอารมณ์เสียทุกครั้ง และ คาดโทษปลัดกระทรวง และผู้ว่าราชการจังหวัด ในกรณีที่จ่ายเงินเยียวยาให้กับประชาชนล่าช้า
...
พลโท อดุลย์ ยังชี้แจงด้วยว่า การผลักดันน้ำเป็นการพยายามผลักดันเข้าสู่คลองส่งน้ำเป็นหลัก ไม่ใช่พื้นที่ทุ่งหรือบ้านเรือนประชาชน แต่ยอมรับว่า "อาจมีบางส่วนที่กระทบถึงประชาชน จึงขอทำความเข้าใจในส่วนนี้"