“พร้อมพงศ์” เย้ย “มีเรา ไม่มีเทา” แค่คำพูดเอาหล่อ เบี่ยงกระแสสร้างคะแนนนิยม  ไม่เชื่อคำพูด “อนุทิน” ยุบสภา 31 มกราคม 69 ต้องฟังหู ไว้หู 


วันที่ 8 พ.ย. 2568 นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีตโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและมหาดไทย ออกแถลงการณ์ ปฏิเสธกระแสข่าวการยุบสภาฯ หากมีการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจจากพรรคร่วมฝ่ายค้าน โดยยืนยันจะทำตามข้อตกลงกับพรรคประชาชนก่อนยุบสภา ประมาณ 31 ม.ค. 2569 ว่า ในทางการเมือง ต้องฟังหู ไว้หู ไม่มีอะไรเป็นไปตามข้อตกลงเป๊ะๆ เหตุการณ์พลิกผันได้ตลอดเวลา ถ้าจะเพลี่ยงพล้ำทางการเมือง ส่วนตัวติดใจคำพูดนายอนุทิน เคยให้สัมภาษณ์เรื่องลงนามสันติภาพไทยกับกัมพูชา ที่บอกว่า ไม่เคยเสียเปรียบใคร คนถึงไม่ชอบหลายคน คำพูดดังกล่าว ถึงจะเป็นการเจรจากับต่างประเทศ แต่อีกมุมสะท้อนวิธีคิดลึกๆของคนพูดเป็นคนอย่างไร

คำพูดนายกฯ ฟังหู ไว้หู

นอกจากนี้นายอนุทิน เคยบอกจะไม่ร่วมงานกับพรรคก้าวไกลที่ตอนนี้เป็นพรรคประชาชน เพราะแนวทางและอุดมการณ์ไม่ตรงกัน จากที่พูดวันนั้นแล้ววันนี้เป็นอย่างไร การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ถ้าพรรคร่วมฝ่ายค้านเพื่อไทยและประชาชน จับมือโหวตไม่ไว้วางใจ นายอนุทิน มีสิทธิ์เป็นนายกรัฐมนตรีคนแรก กระเด็นตกเก้าอี้ ใช่ว่าจะเกิดขึ้นไม่ได้ หรืออีกทางบางพรรค ร่วมอุ้มชู ต่อลมหายใจให้เป็นนายกฯต่อไป ล้วนเป็นไปได้ทั้งนั้น ดังนั้นการที่บอกจะไม่ยุบสภาฯก่อนวาระ ฟังได้แต่อย่าเพิ่งเชื่อว่า จะเป็นไปตามนั้น

ชี้ภารกิจเร่งด่วนรัฐบาล

นายพร้อมพงศ์กล่าวว่า นายอนุทิน มีภารกิจเร่งด่วนต้องทำ ปราบปรามสแกมเมอร์ให้สิ้นซาก ทำให้ทั่วโลกและคนไทยเห็นว่า รัฐบาลภูมิใจไทย ไม่ยอมให้สแกมเมอร์มาทำลายประเทศ ทำร้ายลูกหลานคนไทย ลามไปการก่ออาชญากรรมไซเบอร์ ฟอกเงิน ค้ามนุษย์ จากการหาประโยชน์ของกลุ่มสีเทา ต้องลงมือทำให้เห็นเป็นรูปธรรมเสียที ไม่ใช่แค่โชว์ตัวเลขจากการปราบปรามอย่างเดียว

...

ขณะที่พรรคส้ม ออกสโลแกนหล่อๆเท่ๆ “มีเรา ไม่มีเทา” ตนไปสภากาแฟได้ยินผู้คนแซว “มีเรา ไม่มีเทา เพราะเรารักสีน้ำเงิน” ใช่หรือไม่ เพราะตั้งแต่ยกมือโหวตนายอนุทิน เป็นนายกฯ ตนเห็นว่าพรรคประชาชนเป็นเด็กดี คอยอยู่รักษาองค์ประชุมในสภา

แขวะ ปชน.อย่าเบี่ยงเป้า

“ไม่อยากเห็นการเบี่ยงเป้า เพื่อสร้างกระแสให้พรรคตัวเอง จากที่เคยเสียรังวัดไปโจมตีการทำงานทหารไทยตอนมีปัญหากับกัมพูชา การไปยกมือโหวตนายอนุทิน หลายปีก่อนเรามีแก๊งปาหินใส่กระจกรถยนต์ ตอนนี้ไม่อยากเห็น แก๊งปาหี่ ไปรับธง รับงานจากใครมา เลือกตรวจสอบแค่บางคน เพราะใครคนนั้นทำธุรกิจเดียวกันเลยไปกระทบกับอีกคน แถมระยะหลังคนๆนี้ชักจะอู้ฟู่ผิดหูผิดตา ภาวนาให้การข่าวที่ได้ยินได้ฟังมามันผิด อยากเห็นการตรวจสอบอย่างมืออาชีพ ผิดว่าตามผิด ถูกว่าตามถูก ถ้าผิดลุยเอาให้สุดซอย เอาข้อมูลมาเปิดในสภาฯ ไปหน่วยงานองค์กรอิสระให้เห็นเป็นตัวอย่าง เดี๋ยวนี้คนตรวจสอบแถลงข่าวรายวันไม่ได้ แต่ต้องมือสะอาดด้วย ไม่อยากเห็นการแบ่งบทกันเล่น ปาหี่ต้มผู้คนไปวันๆ เพื่อเบี่ยงกระแสในอดีต สร้างคะแนนนิยมให้พรรค ให้ตัวเอง” นายพร้อมพงศ์กล่าว