“นายกฯ อนุทิน” เผย รักษาบาลานซ์ 2 ชาติมหาอำนาจ ต้องใช้ความจริงใจ วางตัวเป็นพาร์ทเนอร์ - คู่ค้า ไม่ใช่ขี้ข้าใคร ถ้าไม่มีใครคบต้องมั่นใจว่ามีจุดแข็ง ย้ำคนละครึ่งพลัสเสร็จก่อนยุบสภา


วันที่ 5 พฤศจิกายน 2568 นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ขึ้นกล่าวแสดงวิสัยทัศน์ที่งาน THE STANDARD ECONOMIC FORUM 2025 ในหัวข้อ“Thailand’s Next Frontier : A National Economic Vision” วิสัยทัศน์ประเทศไทยในโลกใหม่ สะท้อนแนวคิดการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย สู่พรมแดนใหม่ของโอกาส การเติบโต และความยั่งยืน


นายอนุทิน ได้กล่าวถึงการรักษาจุดยืนระหว่างชาติมหาอำนาจ ว่า การจะบาลานซ์ตัวเองกับใครต้องมีความจริงใจ และมั่นใจว่าเราก็มีดีเหมือนกัน แต่สำคัญคือต้องจริงใจ อย่าไปเล่นแบบนกมีหูหนูมีปีก หากเป็นแบบนั้นกระโดดโลดเต้นตาย วันหนึ่งคนที่หมดแรงก็คือเรา เพราะต้องเหยียบเรือสองแคมต้องประคองตัว ดังนั้น เราต้องใช้ความจริงใจจากสิ่งที่เรามี ซึ่งประเทศไทยมีดีเยอะแยะ มีคนเก่งๆ มีเทคโนโลยี และมีเงินเยอะด้วย


นายอนุทิน กล่าวด้วยว่า ต้องวางตัวให้เป็นพาร์ทเนอร์ เป็นคู่ค้าคู่คิดไม่ใช่เป็นขี้ข้า เราต้องเลือกข้างตัวเอง คิดถึงประโยชน์สูงสุดของประเทศเป็นสำคัญ สุดท้ายเราต้องอยู่ด้วยตัวเอง ถ้าไม่มีใครคบเรา เราต้องมั่นใจว่าสามารถที่จะผลิตอาหาร ผลิตปัจจัย 4 เรามีจุดแข็งหลายอย่างทั้งพลังงานธรรมชาติ การพัฒนาเทคโนโลยี เป็นแหล่งกำเนิดของผลิตภัณฑ์ต่างๆ ทุกอย่างเกิดขึ้นในประเทศไทยได้ทั้งหมด บางทีเวลาผมบินมองลงไปเห็นพื้นที่กว้างใหญ่ไพศาล ที่ยังไม่ได้มีการพัฒนาอะไรเลย เห็นแหล่งน้ำ เห็นสายไฟ ผมก็ยังงงว่าทำไมเราถึงต้องไปลงทุนในประเทศเพื่อนบ้าน ขณะที่ทรัพยากรของเรายังมีอยู่ ซึ่งเราต้องทำทุกมิติพร้อมกัน ด้วยความยุติธรรม ความเท่าเทียม และความน่าเชื่อถือ

...


ในช่วงท้าย นายอนุทิน ยังกล่าวถึง สิ่งที่สำคัญที่สุด ที่จะทำให้สำเร็จในช่วงเวลา 4 เดือน ว่า คือการยุบสภา ในวันที่ 31 มกราคม 2569 นั้นคือช้าที่สุด ส่วนโครงการคนละครึ่งพลัส เฟส 2 ได้ดำเนินการไปแล้วในช่วงที่เข้ามาเป็นรัฐบาลภายใน 3 สัปดาห์ ส่วนคนละครึ่งพลัสในเฟสที่ 2 นั้น คาดว่าจะทำได้ในช่วงครึ่งหลังของเดือนธันวาคม ซึ่งจะดำเนินการให้เสร็จก่อนยุบสภา


นอกจากนี้ยังมีการผลักดันค่าโดยสารขนส่งสาธารณะ ที่ต่อยอดมาจากรัฐบาลชุดก่อน และยกระดับความเป็นอยู่ทำให้ปากท้องของพี่น้องประชาชนดีขึ้น


นายกรัฐมนตรียังย้ำอีกว่าตั้งแต่ตอนเข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรียังไม่เคยมีกระสุนสักลูกตกเข้ามา ไม่มีจรวดไม่มีระเบิดไม่มีใครขาขาด ไม่มีพี่น้องทหารบาดเจ็บ สิ่งใดที่เป็นความต้องการของพี่น้องประชาชน เช่น การเปิดด่าน จะเป็นสิ่งสุดท้าย