“นายกฯ อนุทิน” ยันยุบสภาฯ 4 เดือน ตามสัญญาที่ให้ไว้กับพรรคประชาชน 31 ม.ค. ลั่นไม่ยอมให้ใครด่าฟรี บอกเป็นนายกฯ แล้วก็เป็นไปตลอด แต่จะฝากอะไรไว้


เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 5 พฤศจิกายน 2568 ที่ พารากอน ฮอลล์ ชั้น 5 ศูนย์การค้าสยามพารากอน นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ และ รมว.มหาดไทย แสดงวิสัยทัศน์ ในงาน THE STANDARD ECONOMIC FORUM 2025 ในหัวข้อ “Thailand’s Next Frontier : A National Economic Vision วิสัยทัศน์ประเทศไทยในโลกใหม่” ในรูปแบบการสัมภาษณ์ เมื่อผู้ดำเนินรายการถามว่าจะยุบสภา 4 เดือน ตามเอ็มโอเอ ที่ทำไว้กับพรรคประชาชนหรือไม่ นายอนุทิน ตอบว่า 4 เดือนคือสิ่งที่เราได้สัญญาไว้กับพรรคประชาชน เพราะมองกันว่าบ้านเมืองในขณะนั้นการยุบสภาฯเลือกตั้งใหม่คืนอำนาจให้ประชาชนน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด พรรคที่เป็นรัฐบาลตอนนั้นมีข้อสงสัยว่านายกฯรักษาราชการยุบสภาฯหรือไม่ จึงต้องมีวิธีการดำเนินการให้มีการยุบสภาฯ เราเล่นตามกติกาพรรคประชาชนมี สส. มากกว่าเรา แต่เขาไม่มีแคนดิเดตนายกฯ เมื่อต้องเลือกตั้งคืนอำนาจให้ประชาชนจึงเป็นที่มาของเอ็มโอเอ เมื่อถามว่ายืนยันตามไทม์ไลน์เดิมหรือไม่ นายอนุทิน ตอบว่า ตนยืนยันตลอดไม่เคยเปลี่ยน มีคนเยอะแยะมาบอกว่าจะมีเหตุการณ์อย่างนั้นอย่างนี้ เอาเป็นข้ออ้างได้ ตนรับฟังแต่รับรองไม่ปฏิบัติตาม เพราะพรรคประชาชนทำให้ตนเป็นนายกฯ ตนต้องรักษาสัญญาที่มีไว้ เมื่อครบสี่เดือนก็ต้องยุบสภาฯ เมื่อถามถึงกระแสข่าวจะยุบสภาฯก่อนหากมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายอนุทิน กล่าวว่า ก็ต้องดูสถานการณ์ในแต่ละช่วงเวลา การอภิปรายไม่ไว้วางใจจะอภิปรายโดยวัตถุประสงค์อะไร เราต้องดูไทม์ไลน์กว่าจะยื่นอภิปรายได้สภาฯเปิดสมัยประชุมเดือนธ.ค. ตั้งใจยุบสภาฯวันที่ 31 ม.ค.อยู่แล้ว คนคงไม่ปล่อยให้ใครมาด่ารัฐบาลเล่นๆฟรีๆ หากเป็นเกมการเมือง รัฐบาลสู้เกมการเมืองไม่ได้ก็ยุบสภาไปห่างแค่เดือนเดียวคงไม่ทำให้เกิดความแตกต่างอะไร

...


เมื่อถามว่าการเลือกตั้งครั้งหน้าพร้อมหรือไม่ นายอนุทิน ตอบว่า ตนพร้อมตั้งแต่เขาเอาออกจากรัฐบาล และการประชุม สส. พรรคภูมิใจไทยวาระแรกหลังเข้ามาเป็นรัฐบาลในปี 66 คือบอกให้เตรียมตัวเลือกตั้งเพราะมันเกิดขึ้นได้ทุกวัน บอกสมาชิกพรรคว่าเลือกตั้งเกิดขึ้นได้เสมอ หากพรุ่งนี้เลือกตั้งก็ต้องพร้อม เมื่อถามว่าพร้อมกลับมาเป็นนายกฯอีกครั้งหรือไม่ นายอนุทินกล่าวติดตลกว่า ก็ดีเหมือนกันเป็นนายกฯ ตอนนี้ตนเป็นนายกฯแล้ว ตอนที่ยังไม่เป็นยังกลัวๆกล้าๆ แต่พอเป็นแล้วเห็นสิ่งที่สามารถทำได้ให้กับบ้านเมืองด้วยความเป็นนายกฯ หากเราทำได้ดีจะเป็นยาวเป็นสั้นไม่ได้มีความสำคัญ สำหรับตนเป็นแล้วก็คือเป็น ตั้งแต่ปี 47-49 ที่ตนได้เป็นรัฐมนตรีแล้วมีการรัฐประหาร ตนออกไปจากการเมือง 13-14 ปี คนที่ไม่สนิทกันมากเขาก็เรียกตนเป็นรัฐมนตรีทุกคำ วันนี้ต่อให้ตนเป็นนายกฯ 3-4 เดือน คนก็เรียกตนว่านายกฯเหมือนที่ตนเรียกนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกฯ หรือนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ว่าท่านนายกฯ แต่อยู่ที่ว่าเวลาที่มีอยู่ทำอะไรให้มันปังไปสักอัน เป็นสิ่งที่เกิดประโยชน์กับบ้านเมืองเป็นภาพจำ ได้กลับหรือไม่กลับเราก็ถือว่าบอกตัวเองได้แล้วว่าความเป็นนายกฯทำสิ่งอะไรไว้