รมว.ต่างประเทศ บรรยายสรุปผลประชุมผู้นำอาเซียนกับตัวแทนทูต 68 ประเทศ ย้ำจุดยืนไทยเดินหน้าสร้างสันติภาพ พร้อมเสนอตัวเป็นเจ้าภาพปราบสแกมเมอร์ คาดประชุมนัดแรกภายใน ธ.ค.นี้


วันที่ 4 พ.ย. 2568 นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ บรรยายผลการเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนครั้งที่ 47 และการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 32 ที่ห้องแถลงข่าว กระทรวงการต่างประเทศ ให้กับคณะทูตานุทูต ประจำประเทศไทย 68 ประเทศ 1 องค์กร ได้แก่ สหภาพยุโรป และ 6 องค์การระหว่างประเทศ รวม 100 คน

ชี้แจงนโยบายให้โลกรู้

นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศเปิดเผยว่า นายสีหศักดิ์ได้บรรยายว่าการประชุมครั้งนี้เป็นครั้งแรกหลังนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เข้ารับตำแหน่ง ถือเป็นโอกาสสำคัญในการแนะนำและเสนอวิสัยทัศน์ นโยบายของไทย โดยมีการพูดถึงระยะเวลาของรัฐบาลที่จำกัด แต่มีรากฐานในการแก้ปัญหาระยะยาวให้ประเทศไทยเดินหน้าอย่างมั่นคง ปลอดภัย ยั่งยืน การเข้าร่วมประชุมของไทยไม่ได้มีเป้าหมายผลักดันผลประโยชน์ของไทย แต่เป็นกิจกรรมใหญ่ที่แสดงความมุ่งมั่นร่วมมือกับประชาคมโลกในการแก้ไขปัญหาระดับภูมิภาคและระดับโลก เช่น การปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ การรับมือการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากร (Aging society) การเปลี่ยนผ่านเข้าสู่สังคมดิจิทัล และการพัฒนาที่ยั่งยืน

ไม่มีใครแก้ปัญหาได้เพียงลำพัง

นายนิกรเดช กล่าวด้วยว่า กรอบการประชุมดังกล่าว จึงเป็นการแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของภูมิภาคนิยมและพหุภาคีนิยม ไม่มีประเทศใดที่จะแก้ปัญหาระดับภูมิภาคและระดับโลกได้เพียงคนเดียว เป็นการย้ำความพร้อมและจุดยืนของไทย โดยประเด็นสำคัญที่ผลักดันทั้งสองเวที

...

คือ สันติภาพและความมั่นคงของภูมิภาค ไทยและกัมพูชาได้ลงนามในถ้อยแถลงร่วม สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของทั้งสองฝ่ายที่จะยุติความขัดแย้งฟื้นฟูความสัมพันธ์ให้กลับมาเป็นปกติ นอกจากนี้ประเทศไทยยังให้ความสำคัญกับปัญหาในเมียนมา สนับสนุนการดำเนินงานตามฉันทามติ 5 ข้อ และการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของผู้แทนพิเศษของประธานอาเซียน โดยคำนึงถึงกรณีที่เมียนมาจะจัดการเลือกตั้งทั่วไปในเดือน ธ.ค.นี้

เสนอตัวเจ้าภาพประชุมปราบสแกมเมอร์

ส่วนประเด็นความมั่นคงของมนุษย์ ไทยให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาสแกมเมอร์และภัยไซเบอร์ โดยเสนอตัวเป็นเจ้าภาพในการประชุมระหว่างประเทศ เพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านการป้องกันและบังคับใช้กฎหมาย การแลกเปลี่ยนข้อมูล การเสริมสร้างขีดความสามารถในการจัดการกับสถานการณ์ดังกล่าว ซึ่งจะเกิดขึ้นภายในเดือน ธ.ค.นี้ประเด็นการพัฒนาที่ยั่งยืน ไทยผลักดันการเปลี่ยนผ่านด้านดิจิทัล เศรษฐกิจดิจิทัล ความมั่นคงทางไซเบอร์-AI ความร่วมมือด้านความมั่นคงทางอาหาร, ความมั่นคงทางพลังงานและการเปลี่ยนผ่านสู่สังคมสีเขียว

ย้ำไทยอยากเห็นความจริงใจ

นายสีหศักดิ์ ยังกล่าวถึงการหารือทวิภาคี โดยนายอนุทินและนายสีหศักดิ์ได้พบหารือทวิภาคีกับหลายประเทศ ทั้งนายฮุนมาเนต นายกฯ กัมพูชา ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ผู้นำทั้งสองประเทศพบกันหลังจากเกิดเหตุการณ์ปะทะ เป็นโอกาสให้ฝ่ายไทยย้ำถึงการแสดงความจริงใจในการปฏิบัติตามข้อตกลงทั้ง 4 ข้อ ได้แก่ การถอนอาวุธหนัก การเก็บกู้ทุ่นระเบิด การปราบปรามสแกมเมอร์ และการบริหารจัดการพื้นที่ชายแดน

ขอสหรัฐฯภาษีนำเข้า

ส่วนการพบกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ได้ลงนามในเอกสารสองฉบับ ได้แก่ บันทึกความเข้าใจว่าด้วยการพัฒนาความหลากหลายของห่วงโซ่อุปทานของแร่ที่มีความสำคัญในระดับโลกและการส่งเสริมการลงทุน ซึ่งจะช่วยให้ไทยได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีที่สำคัญและไม่ตกขบวนห่วงโซ่อุปทาน รวมถึงแถลงการณ์ร่วมว่าด้วยกรอบการตกลงการค้าต่างตอบแทน โดยไทยขอให้สหรัฐฯ กำหนดอัตราภาษีนำเข้าที่เป็นคุณแก่ไทย เพื่อให้ภาคเอกชนไทยแข่งขันในตลาดสหรัฐฯ ได้