“อนุทิน” หนุน ส่งตำรวจเข้าประเทศสแกมเมอร์ เมิน “เพื่อไทย” บอกแก้ปัญหาช้า ย้อนถาม “ใครพูด ไม่รู้จัก” ขณะที่เงื่อนไข 4 ข้อ “ไทย - กัมพูชา” มีความคืบหน้า กัมพูชาย้ายฐานยิงแล้ว กว่า 40 แห่ง


วันที่ 4 พ.ย.2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์กรณีที่ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เสนอให้ส่งตำรวจเข้าไปในประเทศสแกมเมอร์ ว่า ก็ดี เพราะมีความร่วมมือกันอยู่แล้ว วันนี้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติก็ร่วมประชุมกับตำรวจอาเซียน ซึ่งท่านได้ยกเรื่องสแกมเมอร์ ค้ามนุษย์ และยาเสพติด มาเป็นวาระของภูมิภาคนี้อยู่แล้ว  ส่วนจะต้องส่งเข้าไปในประเทศกัมพูชาด้วยหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ต้องมี แต่ต้องไปถาม ผบ.ตร. พร้อมยืนยันว่า นโยบายของรัฐบาลมีความชัดเจน จะไปสั่งการข้ามหัวใครไม่ได้

เมิน “เพื่อไทย” บอกแก้ปัญหาช้า

นายกรัฐมนตรี บอกด้วยว่า รัฐบาลพร้อมสนับสนุนเต็มที่ทั้งเรื่องของงบประมาณ และการบูรณาการทรัพยากรทุกเรื่อง ซึ่งเป็นเรื่องที่รัฐบาลทำได้ ส่วนผู้ปฏิบัติก็รับไปปฏิบัติ  ส่วนที่พรรคเพื่อไทย บอกว่า รัฐบาลปราบปรามสแกมเมอร์ได้ช้า นายอนุทิน ถามกลับว่า ใครพูด โดยผู้สื่อข่าวจึงตอบว่า เป็นโฆษกพรรคเพื่อไทยออกมาวิจารณ์ นายกรัฐมนตรีจึงตอบกลับทันทีว่า “เป็นใคร ไม่รู้จัก”

ส่วนกรณีหญิงชาวไทยเสียชีวิตที่เมืองปอยเปต ประเทศกัมพูชานั้น นายอนุทิน ระบุว่า ต้องไปตรวจสอบรายงานที่จะนำเสนอในวันนี้ก่อน พร้อมย้ำว่า รัฐบาลกำชับเรื่องการทำงานไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติทุกวัน และพร้อมสนับสนุนภารกิจของตำรวจ

...

เงื่อนไข 4 ข้อ “ไทย-กัมพูชา”คืบหน้า

ส่วนมีการวางกรอบไว้หรือไม่ ว่าจะใช้ระยะเวลาเท่าไหร่ในการประเมินเงื่อนไข 4 ข้อของรัฐบาลไทย นายอนุทิน กล่าวว่า ทำทุกวัน และมีความคืบหน้าจาก 2 ฐานยิง ตอนนี้ก็เพิ่มมาเป็น 40 กว่าฐานยิงที่ย้ายออกไปแล้ว ซึ่งใช้ระยะเวลาเพียงไม่กี่วัน ของพวกนี้ไม่ใช่ว่าอยากจะย้ายก็ย้ายทันที แต่เป็นเรื่องที่ต้องปล่อยให้กองทัพดำเนินการ ไม่ใช่ว่าไม่มีอะไรคืบหน้า

เมื่อถามว่า หลังจากลงปฏิญญาแล้วนั้นสถานการณ์ชายแดนดีขึ้นใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า สิ่งที่ทั้งสองฝ่ายต้องปฏิบัติ ทั้งเงื่อนไข และวิธีการ เริ่มมาตั้งแต่ข้อตกลงของคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (JBC) และการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) อยู่แล้ว ซึ่งกองทัพรับทราบขั้นตอนอยู่แล้ว