โฆษกรัฐบาล นำฝ่ายความมั่นคงแถลงยืนยัน รัฐบาลไทยไม่สยบยอมต่อกัมพูชาแน่นอน แต่เป้าหมายต้องการคืนสันติสุขให้ประชาชนชายแดน ชี้ ใช้กำลังยึด ปราสาทตาควาย ปราสาทคนา ไม่ได้ ต้องใช้การเจรจา
วันที่ 3 พ.ย. 2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นำหน่วยงานความมั่นคงและกระทรวงการต่างประเทศ แถลง ความคืบหน้าการดำเนินการตาม 4 ข้อตกลงสันติภาพ ไทย-กัมพูชา โดยกล่าวว่า ที่ผ่านมาไทย-กัมพูชามีความสัมพันธ์อันดีมาโดยตลอด จนกระทั่งเดือนเมษายน 2568 ที่เริ่มมีการรุกล้ำเข้ามาโดยฝ่ายกัมพูชา จากนั้นก็เกิดการปะทะและเกิดการสูญเสียทั้งทหารและพลเรือนของไทย ยืนยัน ไม่ได้ลืมความโกรธแค้น แต่ 96 วันที่ผ่านมา ชาวบ้านตื่นมาเจอแต่ปืนใหญ่ รถถัง ซึ่งสิ่งหนึ่งที่ปฏิเสธไม่ได้ คือประเทศไทยและกัมพูชา เป็นประเทศที่มีพื้นที่ติดกัน สิ่งที่ต้องทำคือการหาทางออกร่วมกันเพื่อให้ชีวิตประชาชนกลับคืนสู่สภาวะปกติ ไม่ต้องคอยกังวลว่าจะต้องอพยพออกไปเมื่อไร โดยที่ไทยต้องไม่สูญเสียดินแดนแม้แต่ 1 ตารางเซนติเมตร วันนี้ถึงเวลาที่จะต้องเดินหน้าหาทางออกกับกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ภายใต้ 4 ข้อตกลง ซึ่งรวมถึงการปราบปรามสแกมเมอร์
แจงติดตามประเมินผล
นายสิริพงศ์ ยังกล่าวต่อด้วยว่า นายกรัฐมนตรีได้มีคำสั่งจัดตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อน และปฏิบัติตามเอกสารถ้อยแถลง ผลการประชุมหารือระหว่างนายกรัฐมนตรี ราชอาณาจักรไทย และนายกรัฐมนตรีราชอาณาจักรกัมพูชา ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซียเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2568 มีผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นประธาน มีหน้าที่ในการติดตาม ประเมินผล ไม่ว่าจะเป็นการดำเนินการของฝั่งกัมพูชา และฝั่งไทย และจะมีหน้าที่อำนวยการคณะสังเกตการณ์ เพื่อให้การสังเกตการณ์เป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อย
...
ตั้งใจคืนความสุขคนไทย
นายสิริพงศ์ ยังยืนยันอีกว่า รัฐบาลโดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล มีความมุ่งมั่นตั้งใจ ที่อยากนำความสุข มาคืนสู่คนไทยทุกคน ในประเทศนี้ โดยยึดหลักไม่เสียดินแดนและอธิปไตย แม้แต่ตารางเซนติเมตรเดียว ระยะเวลา 1 เดือนที่ผ่านมา ที่นายอนุทิน มาเป็นนายกรัฐมนตรี ไม่มีดินแดนแม้แต่ 1 ตารางเซนติเมตรเดียวที่เสียไป ไม่มีอวัยวะชิ้นใดของทหารที่เสียไป ไม่เห็นเลือดของทหารหยดลงบนผืนแผ่นดินไทย และที่สำคัญเราไม่เห็นเลือดของประชาชนที่ต้องหลั่งลงบนแผ่นดินไทยตลอดระยะเวลา 1 เดือนที่ผ่านมา ดังนั้น แนวทางที่จะเดินหน้าต่อไป รัฐบาลมีความตั้งใจ ทำให้ชีวิตทุกคนกลับสู่ภาวะปกติที่สุด ภายใต้เงื่อนไขการรักษาไว้ซึ่งอธิปไตยของไทย ยืนยัน ยังไม่มีเรื่องการเปิดด่าน นโยบายของรัฐบาลชัดเจนมาก ด่านชายแดนไทยกัมพูชา จะเป็นสิ่งสุดท้ายที่รัฐบาลจะพิจารณาทำ หลังจากที่กัมพูชาดำเนินการตามเงื่อนไข ที่กัมพูชาได้ให้คำมั่นไว้ ในถ้อยแถลงเท่านั้น ฉะนั้นขอให้ทุกท่านมั่นใจได้ ว่า รัฐบาลไทยไม่ย่อหย่อน และไม่มีทางสยบยอมต่อกัมพูชา
ใช้สันติวิธีเจรจา ปักปันเขตแดน
ส่วนกรณีเรื่องเฉลยศึก 18 คน นายสิริพงศ์ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นหนึ่งในข้อเรียกร้องที่กัมพูชาขอมา แต่ในข้อตกลงก็ระบุแล้วว่ากระบวนการเหล่านี้จะเริ่มขึ้นต่อเมื่อ กัมพูชาดำเนินการ 4 ข้ออย่างจริงจัง ส่วนรัฐบาลจะมีแนวทางอย่างไร ในพื้นที่ปราสาทควาย ปราสาทคนา เนิน 677 จะเจรจาอย่างไรไม่ให้ใครเสียประโยชน์ นายสิริพงศ์ กล่าวว่า เรื่องการใช้ความรุนแรงหรือการยิง จบไปตั้งแต่ สัญญาหยุดยิง 28 กรกฎาคม 2586 ดังนั้นรัฐบาลไม่สามารถใช้กำลังเปิดก่อนได้ แต่แนวทางที่รัฐบาลต้องทำคือใช้สันติวิธีโดยการเจรจา สุดท้ายแล้วในเรื่องการปักปันเขตแดน และกรณีพิพาทที่ยังเป็นปัญหาอยู่ เป็นเรื่องที่ต้องมาพูดคุยกันในระดับทวิภาคี ซึ่งหมายรวมไปถึงทุกพื้นที่ ที่ยังมีความเห็นไม่ตรงกัน ส่วนเจรจาขอคืนพื้นที่ มีกรอบเวลาหรือไม่ นายสิริพงศ์ กล่าวว่า ยังไม่มีกรอบเวลา ทำใน 4 ประเด็นใหญ่ไป