“อนุทิน” เผย 4 หน่วยจ่อเซ็น MOU กำกับ-ปราบปรามสแกมเมอร์ อายัดทรัพย์กว่า 2 หมื่นล้าน ย้ำรัฐบาลนำหน้าผู้กระทำผิดเสมอ บอกหากลงพื้นที่เจอรังสีอำมหิตแน่นอน


วันที่ 3 พ.ย.2568 นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์หลังการประชุมที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. ว่า เป็นการตรวจเยี่ยม และพูดคุยหารือว่าต้องการให้รัฐบาลสนับสนุนในเรื่องใดบ้าง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ในขณะที่อาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือสแกมเมอร์ เป็นเรื่องที่ถูกบรรจุไว้เป็นวาระแห่งชาติ พร้อมยืนยันว่ารัฐบาลจะสนับสนุนอย่างเต็มที่

ส่วนการที่นายกรัฐมนตรี พูดในที่ประชุมว่าหากไม่ดำเนินการปราบปรามสแกมเมอร์จะถูกคว่ำบาตรจากนานาประเทศ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ไม่ได้เป็นเรื่องแค่ภายในประเทศ หากไม่มีการสร้างความมั่นใจปราบปรามผู้กระทำความผิดที่ใช้ประเทศไทยเป็นฐานการฟอกเงิน จะส่งผลความเสียหายให้กับประเทศไทย ซึ่งเรื่องนี้ ปปง. ต้องดำเนินการไม่ให้มีเรื่องเงินดำเงินเทา มาอยู่ในระบบการเงินของไทย

ย้ำมี ปปง.คอยดูแลแล้ว

ส่วนความคืบหน้าตั้งคณะกรรมการขึ้นมา 2 ชุด นายกรัฐมนตรีขอให้ไปถามนายเทพสุ บวรโชติดารา เลขาธิการ ปปง. เอง  ผู้สื่อข่าวถามต่อว่ากรณีที่ฝ่ายค้าน ออกมาเปิดเผยถึงขบวนการสแกมเมอร์นั้นนายกรัฐมนตรี จะดำเนินการอย่างไร นายอนุทิน บอกว่า เรื่องนี้นายกรัฐมนตรีไม่ต้องจัดการเพราะมี ปปง. สำนักงานตำรวจแห่งชาติดูแล และหากตรงไหนไปเข้าข่ายการฟอกเงิน จะมีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอดูแล นอกจากนี้ยังมีการหารือกับ นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ประธาน ปปง. ซึ่งเคยเป็นปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้เสนอให้ทำบันทึกความร่วมมือ กับ 4 หน่วยงานหลัก คือ ปปง. กระทรวงมหาดไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อให้ทั้งหมดนี้มาช่วยกันทำงานปราบปรามการฟอกเงิน และปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี

...


อายัดไปแล้ว 2 หมื่นล้าน

ส่วนการวางกรอบเวลาในการแก้ไขปัญหานั้น นายกรัฐมนตรี ย้ำว่าเร่งทำอยู่แล้ว ขณะนี้มีวงเงินที่อายัดไว้กว่า 20,000 ล้านบาท และเริ่มทยอยฟ้องผู้กระทำความผิด พร้อมย้ำบางครั้งไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ ทำให้หลายคนคิดว่ารัฐบาลไม่ได้ทำอะไร แต่อย่างที่เคยบอกไว้ว่าเรื่องนี้ต้องใช้ข้อมูลทางการข่าวและการสืบสวนจนกระทั่งมีหลักฐานครบถ้วนถึงจะดำเนินการได้ ซึ่งที่ผ่านมา พลตำรวจเอกกิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้มีการรายงานมาเสมอถึงการยึดอายัดทรัพย์ในการกระทำความผิด ทั้ง ยาเสพติด การพนันและการค้ามนุษย์ ซึ่งเรื่องพวกนี้หากเอามาพูดทั้งหมดก็จะเป็นการเผยไต๋ ย้ำว่าการเป็นรัฐบาลต้องนำหน้าผู้กระทำความผิด และอยู่เหนือกว่าผู้กระทำความผิดหนึ่งก้าว

ยืนยันวาระสำคัญ

ส่วนได้รับรายงานว่ามีแก๊งสแกมเมอร์เข้ามาตั้งถิ่นฐานในประเทศไทยหรือไม่ นายอนุทิน บอกว่า อย่าไปสนใจฝั่งตรงข้ามมาก ตนยังบอกกับเลขาธิการ ปปง. ว่าหากลงพื้นที่ไปเดินแถวไหนที่มีความผิดปกติจะเห็นรังสีอำมหิตแน่นอน ซึ่งเรื่องนี้ต้องเร่งดำเนินการเพราะถูกกดดันจากประชาคมโลก ซึ่งตัวเองเดินทางไปประชุมที่ต่างประเทศมาก็นำเรื่องนี้กลับมาเป็นวาระสำคัญ เพราะเรื่องนี้เป็นภัยความมั่นคงของชาติ หากจะต้องใช้งบประมาณกลางมาดำเนินการก็ต้องใช้