ศาลฎีกาพิพากษาจำคุก “วิฑูรย์ นามบุตร” อดีต รมต.-อดีตรองหัวหน้า ปชป. 3 ปี คดีเรียกเงิน 30 ล้าน แลกงานก่อสร้างของรัฐ ลงที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทางภาคใต้ เมื่อครั้งนั่งเป็น กมธ.งบ 56-57
วันที่ 1 พ.ย. 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 23 ก.ค. 68 ที่ผ่านมา ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง อ่านคำพิพากษาในคดี อัยการสูงสุด เป็นโจทก์ฟ้อง นายวิฑูรย์ นามบุตร อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และอดีต สส.อุบลราชธานี สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) จำเลยที่ 1 พร้อมพวกอีก 4 ราย เป็นจำเลยในความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ความผิดต่อพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต
กรณีระหว่างเดือน พ.ค. 2556 นายวิฑูรย์ เป็น สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ และกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2556 ถึง 2557 เรียกรับเงินจากผู้เสียหาย 30,000,000 บาท อ้างว่าเป็นการแบ่งโควตาโครงการก่อสร้างสาธารณูปโภคของหน่วยงานของรัฐมาลงที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทางภาคใต้ เป็นเหตุให้ผู้เสียหายหลงเชื่อจ่ายเงินให้แก่ นายวิฑูรย์กับพวก หลายครั้งตั้งแต่เดือน มิ.ย. 2556 ถึง พ.ค. 2557 รวมเป็นเงิน 29,600,000 บาท อันเป็นการกระทำการใด ๆ โดยทุจริตในลักษณะใช้ตำแหน่งหน้าที่โดยมิชอบ เหตุเกิดที่ตำบลเขื่องใน อำเภอเขื่องใน ต.ในเมือง อ.เมืองอุบลราชธานี จ.อุบลราชธานี, ต.บุ่ง อ.เมืองอำนาจเจริญ จ.อำนาจเจริญ, จ.นนทบุรี และกรุงเทพฯ เกี่ยวพันกัน จำเลยทั้ง 5 ให้การปฏิเสธ
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า การที่นายวิฑูรย์ จำเลยที่ 1 อาศัยโอกาสจากการที่มีอำนาจหน้าที่ไปเรียกรับเงินแล้วเสนอผลตอบแทนให้แก่ผู้เสียหาย เป็นเหตุให้ผู้เสียหายยอมจ่ายเงินให้แก่จำเลยที่ 1 หลายครั้ง รวมเป็นเงิน 29,600,000 บาท เป็นการหาประโยชน์ให้แก่ตนเองโดยอาศัยตำแหน่งหน้าที่ราชการของตนไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม อันส่งผลกระทบต่อการบริหารราชการแผ่นดินอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ ถือได้ว่าเป็นการใช้อำนาจในตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณของนายวิฑูรย์ จำเลยที่ 1 โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น และเป็นการกระทำโดยทุจริตแล้ว การกระทำของนายวิฑูรย์จำเลยที่ 1 จึงเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 123/1 ฐานกระทำการทุจริตต่อหน้าที่ ส่วนจำเลยที่ 2-5 แม้จะเป็นเครือญาติของนายวิฑูรย์จำเลยที่ 1 แต่ไม่ปรากฏว่าผู้เสียหายได้ทำการติดต่อกับจำเลยที่ 2 ถึง 5 แต่อย่างใด จำเลยที่ 2-5 จึงไม่มีความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนฯ
...
พิพากษาว่า นายวิฑูรย์จำเลยที่ 1 มีความผิดตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 123/1 องค์คณะผู้พิพากษาเสียงข้างมากให้ลงโทษจำคุก 3 ปี ข้อหาอื่นให้ยก และยกฟ้องจำเลยที่ 2-5
ทั้งนี้นายวิฑูรย์ได้ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวและศาลอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวระหว่างอุทธรณ์