ป.ป.ช.รวมสำนวนคดีสินบน 40 ล้าน “ไชยชนก” เพื่อไม่ให้ปราบปรามเว็บไซต์การพนันออนไลน์แล้ว  ด้านเจ้าตัวยืนยันทุกหน่วยงานมีเจตนาร่วมกันหาทางออกในการปราบปรามสแกมเมอร์


วันที่ 31 ต.ค. 2568 ที่สำนักงาน ป.ป.ช. นายสุรพงษ์ อินทรถาวร รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. รักษาราชการแทนเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. แถลงว่า ตามที่ปรากฏข่าวสารในสื่อมวลชนว่า กองบังคับการปราบปรามได้ส่งสำนวนการสอบสวนให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจ กรณีคดีสินบน 40 ล้านบาท ที่เกี่ยวข้องกับนายไชยชนก ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม

 

ข้อเท็จจริงปรากฏว่า กองบังคับการปราบปราม ได้มีหนังสือลงวันที่ 22 ตุลาคม 2568 ส่งสำนวนการสอบสวนมายังสำนักงาน ป.ป.ช. กรณีที่พนักงานสอบสวน กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม ได้รับเรื่องร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีกับบุคคล ซึ่งจะจ่ายเงินจำนวน 40 ล้านบาท ให้กับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เพื่อไม่ให้ปราบปรามเว็บไซต์การพนันออนไลน์ ซึ่งสำนักงาน ป.ป.ช. ได้รับหนังสือดังกล่าวไว้แล้วเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2568 ทั้งนี้พฤติการณ์ในเรื่องที่กองบังคับการปราบปรามส่งมายังสำนักงาน ป.ป.ช. มีความสอดคล้องกับคำกล่าวหาที่สำนักงาน ป.ป.ช. เคยได้รับเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2568 บัดนี้จึงอยู่ระหว่างการพิจารณารวมคำกล่าวหาทั้งสองเรื่องเพื่อดำเนินการไปในคราวเดียวกัน

อยากให้ขยายผลมากกว่านี้

ด้านนายไชยชนก ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอี ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องนี้ว่า ในส่วนข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงดีอี ได้ส่งต่อทั้งหมดให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปแล้ว ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีการจับกุมหลายเว็บไซต์ ล่าสุด 5 เว็บไซต์ พร้อมทั้งทำการขยายผลจากข้อมูลต่อไป ซึ่งส่วนนี้เป็นการดำเนินงานของฝ่ายสืบสวนสอบสวน แต่ส่วนตัวอยากให้ได้มากกว่านี้ และมีการขยายความต่อไปเรื่อยๆ รวมทั้งอยากให้ติดตามต่อไป

...

มองปัจจุบัน ทุกคนร่วมมือปราบ

ส่วนกรณีที่เมื่อวานนี้(30 ต.ค. 2568) พล.ต.อ.กรไชย คล้ายคลึง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พูดในที่ประชุมคณะกรรมาธิการตำรวจสภาผู้แทนราษฎรว่า ที่ผ่านมาตำรวจไม่ได้รับความร่วมมือจากธนาคารและ กสทช. ในการปราบสแกมเมอร์ แต่กลับเหมือนเป็นการผลักภาระให้ตำรวจหน่วยงานเดียวนั้น นายไชยชนก กล่าวว่า ส่วนตัวไม่มองในเรื่องอดีต แต่มองในเรื่องของปัจจุบันเป็นหลัก ที่ผ่านมาในอดีตเป็นอย่างไร ส่วนตัวไม่ทราบ แต่วันนี้ ทุกหน่วยงานได้พูดคุยและมีเจตนาร่วมกันที่จะหาทางออก รวมทั้งต่างเสนอแนวทางที่น่าสนใจเพื่อเร่งแก้ไขปัญหาและนำข้อมูลมาบูรณาการทำงานเชิงรุกร่วมกัน ทุกภาคส่วนต้องช่วยเหลือกันไม่น้อยหน้าไปกว่ากัน ยอมรับว่าแม้แต่การประชุมในวันนี้ ก็มีบางช่วงที่ไม่ได้มีรอยยิ้มให้กัน แต่สุดท้ายก็หาข้อสรุปร่วมกันได้ ส่วนที่บอกว่าหน่วยงานไหนให้ความร่วมมือหรือไม่ให้ความร่วมมือนั้น ขอให้ดูที่ผลงานเป็นหลัก

ขณะที่ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า การแสดงความคิดเห็นดังกล่าว เป็นเรื่องปกติที่ทุกคนย่อมมีความเห็นที่ไม่เหมือนกัน แต่ทุกคนก็มองเห็นปัญหาและอยากจะให้ทุกหน่วยงานต่างร่วมมือร่วมใจกันที่จะแก้ไขปัญหาสแกมเมอร์ให้หมดไป