รมช.กลาโหม ปราม “วีระ” อย่ากดดันทหาร ทำห่วงหน้าพะวงหลัง เชื่อกองกำลังบูรพาจะมีวิธีจัดการเรื่องนี้อยู่แล้ว
วันที่ 31 ต.ค. 2568 พลโทอดุลย์ บุญธรรมเจริญ รมช.กลาโหม กล่าวถึงกรณีนายวีระ สมความคิด นำมวลชน พร้อมกับรถแบ็กโฮ เข้าพื้นที่บ้านหนองจาน และบ้านหนองหญ้าแก้ว จ.สระแก้ว เพื่อขับไล่ชาวกัมพูชาที่รุกล้ำอธิปไตยไทยในพื้นที่ ว่า ในช่วงที่ยังคงรับราชการ ในปี พ.ศ.2554 ก็เคยเจอปัญหาในลักษณะที่เป็นเหตุการณ์เดียวกัน เกิดขึ้นจากคนคนเดียวกัน อยากขอความกรุณาให้เจ้าหน้าที่มีอิสระในการปฏิบัติงาน เนื่องจากด้านหน้าเป็นชาวกัมพูชาซึ่งเป็นภัยคุกคามของเรา และให้ทหารที่อยู่ในแนวหน้า มีสมาธิจดจ่ออยู่กับสิ่งที่กำลังเผชิญหน้า เชื่อว่าความรักชาติทุกคนมีเหมือนกันหมด แต่ในสถานการณ์เช่นนี้ ขอให้ทหารมีสมาธิในการแก้ไขปัญหา เช่น การเก็บกู้ทุ่นระเบิด รวมถึงปัญหาอื่น ๆ จึงขอวิงวอนประชาชนที่จะเข้าไปในพื้นที่ว่า การเข้าไปในลักษณะของการให้กำลังใจกันจะดีกว่าการทำให้ทหารต้องห่วงหน้าพะวงหลัง ซึ่งในอดีตตนก็เคยพบกับนายวีระ และเคยขอร้อง ซึ่งก็ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี ทั้งนี้เชื่อว่ากองกำลังบูรพาจะมีวิธีการจัดการเรื่องนี้อยู่แล้ว
สุ่มเสี่ยงละเมิดข้อตกลง
พลโทอดุลย์ กล่าวว่า สิ่งที่นายวีระดำเนินการอยู่นั้น จะสุ่มเสี่ยงต่อการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงระหว่างไทย - กัมพูชา หรือไม่ แต่ขอให้กองกำลังบูรพา ซึ่งเป็นกองกำลังทหาร ได้ทำหน้าที่ป้องกันประเทศ และควรให้กลไกที่มีอยู่ แก้ไขปัญหาดังกล่าว ซึ่งนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้ลงนามในข้อตกลงกับกัมพูชาไปแล้ว ว่าต้องดำเนินการอย่างไรบ้าง อยากให้กลไกเหล่านี้ได้เดินหน้าต่อไป หากไม่มีอะไรคืบหน้าจึงค่อยมาเคลื่อนไหว
ยันพูดคุยระดับรัฐบาลแล้ว
...
เมื่อถามว่า นายวีระ ได้ขีดเส้นว่าให้ชาวกัมพูชาออกจากพื้นที่ในวันนี้ เป็นวันสุดท้าย ไม่เช่นนั้นจะดำเนินการขับไล่ พลโทอดุลย์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบว่าขีดเส้นหรือไม่ แต่ยืนยันว่าได้มีการพูดคุยกันในระดับรัฐบาลแล้ว ว่าให้ดำเนินการในเงื่อนไข 4 ข้อ ซึ่งมีเรื่องบ้านหนองจานและบ้านหนองหญ้าแก้วอยู่ด้วย ก็ให้เขาดำเนินการไป หากไม่ทำค่อยมากดดันกัน ซึ่งปัจจุบัน เราโชคดีที่กองทัพ รัฐบาล ประชาชนมีความรักชาติ มีความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน คนทำงานคือทหาร ซึ่งมีความเสี่ยง ใต้ดินก็เจอกับระเบิด ข้างหน้าก็เจอปืนเล็ก รวมถึงไม่รู้ว่าจะมีลูกปืนใหญ่มาจากข้างบนด้วยหรือไม่