กกต. แจงเตรียมความพร้อมเลือกตั้ง สส. พร้อมทำประชามติ “แสวง” ขอเวลาให้ข้อมูลประชาชนอย่างครบถ้วนอย่างน้อย 75 วัน ย้ำรัฐธรรมนูญห้ามทำประชามติล่วงหน้า แต่ลงนอกเขตได้ เชื่อนับคะแนนจัดการดีๆ ไม่เกิน 5 ทุ่ม
วันที่ 30 ต.ค. 2568 นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยืนยันความพร้อมไม่ว่าจะมีการเลือกตั้งพร้อมทำประชามติวันไหน โดยเฉพาะกรณีเลือกตั้งไม่มีปัญหา เพราะกฎหมายกำหนดให้ไม่ต่ำกว่า 45 ไม่เกิน 60 วัน แต่การทำประชามติกฎหมายกำหนดต้องน้อยกว่า 60 แต่ไม่เกิน 150 วัน ดังนั้นหากวางแผนไม่ดีจะเหลื่อมล้ำกันทันที จนถึงวันนี้ยังตอบไม่ได้ว่าประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญจะทำเสร็จได้ตรงเวลาหรือไม่เพราะมีรัฐสภาเข้ามาเกี่ยวข้อง ไม่เหมือนประชามติ MOU ที่ครม. สามารถเสนอได้ทันที
นายแสวง กล่าวว่าหากมีการเลือกตั้งพร้อมทำประชามติ กกต. จะขอเวลาในการเผยแพร่ข้อมูลให้ประชาชนรับรู้และเข้าใจ รวมถึงเปิดเวทีให้ผู้เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยได้แสดงความเห็นอย่างน้อย 75 วัน โดยยืนยันว่าสามารถลดบัตรลงคะแนนประชามติทั้งสองเรื่องขมวดมาเป็นใบเดียวได้ ก็จะสามารถลดค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการบัตรได้ถึง 55 ล้านฉบับ
นายแสวง ระบุด้วยว่าภายใน 75 วันจะต้องส่งข้อมูลรายละเอียดหัวข้อประชามติแต่ละฉบับให้ประชาชนทุกครัวเรือน ซึ่งยังไม่แน่ใจว่ารัฐบาลและรัฐสภาจะส่งเนื้อหาประชามติที่ไม่ชี้นำประชาชนมาให้จำนวนมากน้อยแค่ไหน
นายแสวง กล่าวด้วยว่ารอบนี้ถือเป็นเรื่องใหม่ของ กกต. ที่จะต้องรับมือเวทีหาเสียงและเวทีประชามติ เพราะเวทีประชามติควรเป็นเรื่องของผู้เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย แต่ไม่ใช่เป็นเวทีในการหาเสียงของพรรคการเมือง ส่วนงบประมาณเฉลี่ยหน่วยละประมาณ 41,000 บาท จำนวน 120,000 หน่วย บอกได้เลยว่างบประมาณที่ใช้ 90% ใช้จ่ายในหน่วย เพราะ กปน. และจำนวนบัตรต้องเพิ่มมากขึ้น ครั้งนี้จะเพิ่มค่าแรงให้ กปน. เพราะต้องทำงานยาวนานถึง 17 ชม. ตั้งแต่ 6.00-23.00 น.
...
ส่วนกระทรวงต่างประเทศต้องนับคะแนนประชามติที่ประเทศนั้น เกาหลีมีคนไทย 5-6 หมื่น ไต้หวันมีคนไทยเป็นแสนคน แต่ กต. มีเจ้าหน้าที่แต่ละประเทศเพียงแค่ 5-6 คน ตนยังนึกไม่ออกว่าจะนับคะแนนกันอย่างไร เพราะถือเป็นภาระหนักของกระทรวงการต่างประเทศ ทั้งนี้ ประชามติจะไม่มีการลงคะแนนล่วงหน้าตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ แต่สามารถลงประชามตินอกเขตพื้นที่ในวันออกเสียงประชามติได้เท่านั้น ยอมรับว่ารอบนี้ถือเป็นเรื่องยากว่าจะสามารถสื่อสารข้อมูลให้ประชาชนเข้าใจในประเด็นที่ทำประชามติได้มากน้อยแค่ไหน
“เราต้องเอาประชาชนเป็นหลัก คือไม่เพิ่มภาระประชาชน ไม่ทำให้เกิดบัตรเสีย ยกตัวอย่างคำถามประชามติครั้งที่ 1 กับครั้ง 2 นั้น ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าให้ทำรวมกันได้ กับเรื่อง MOU ก็รวมได้ ซึ่งจะประหยัดงบแน่ๆ กว่า 55 ล้านบาท แต่สิ่งที่จะคิดตามมาคือ ประชาชนจะสับสนหรือไม่ เพราะมีคำถามเยอะ ซึ่งในช่วงการขาน การอ่าน 4 คำถามก็ต้องมี 4 กระดาน ดังนั้นเรากำลังประเมินว่าอะไรจะดีที่สุด” นายแสวง กล่าว
ส่วนการนับคะแนนขอให้ความมั่นใจในระบบการนับคะแนนของ กกต. หากบริหารแต่ละหน่วยเลือกตั้งดีๆ ภายใน 23.00 น. ของวันเลือกตั้งทุกอย่างจะเสร็จสิ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ถ้าตามที่กกต.ตั้งกำหนดขอเวลา 75 วัน ในการเผยแพร่ ให้ความรู้ประชาชน เพื่อจัดเลือกตั้งพร้อมลงประชามติ ดังนั้นเท่ากับว่าผู้เกี่ยวข้อง จะต้องส่งประเด็นคำถาม โดยเฉพาะรัฐสภา ต้องส่งคำถามประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญให้กับครม. และส่งให้กกต. ก่อนวันที่ 13 ม.ค. 2569 หรืออย่างช้าสุดไม่เกินวันที่ 28 ม.ค.2569 ซึ่งยังอยู่ในกรอบเวลา 60-150 วัน ของกฎหมายประชามติ 2568