กต.แจงยิบสรุปบทบาทไทยในเวทีประชุมสุดยอดอาเซียน เข้าร่วม 5 การประชุม หารือ 7 ทวิภาคี คุย “กัมพูชา” ให้แต่ละฝ่ายปฏิบัติตามถ้อยแถลงที่ได้ลงนาม และเพิ่มช่องสื่อสารทางการทูตโดยเร็ว


วันที่ 28 ต.ค. 2568 นางมาระตี นะลิตา อันดาโม รองอธิบดีกรมสารนิเทศ และรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงผลการประชุมสรุปรวมของการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 47 และการประชุมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ว่า ประเทศไทยยังคงยึดมั่นที่จะแสดงบทบาทในฐานะผู้เล่นยุทธศาสตร์สำคัญในการขับเคลื่อนสันติภาพ ความเจริญรุ่งเรือง และการพัฒนา

สรุปสาระสำคัญการประชุม

สำหรับการประชุมสุดยอดอาเซียน มีทั้งหมด 5 การประชุม คือ 1.การประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออก ครั้งที่ 20 โดยเมื่อวานนี้(27 ต.ค.2568) นายกรัฐมนตรีของไทย ได้เข้าร่วมประชุม ซึ่งมีผู้เข้าประชุมประกอบด้วยสมาชิกอาเซียน ออสเตรเลีย จีน อินเดีย ญี่ปุ่น นิวซีแลนด์ รัสเซีย เกาหลีใต้ และสหรัฐอเมริกา ซึ่งได้ย้ำถึงบทบาทของเอเชียตะวันออก ในฐานะกลไกการหารือระดับผู้นำในประเด็นเชิงยุทธศาสตร์ที่ส่งเสริมสันติภาพ เสถียรภาพ และความเจริญรุ่งเรืองในภูมิภาค พร้อมกับตอกย้ำในหลักการความเป็นเพื่อนบ้านที่ดี การแก้ไขปัญหาความขัดแย้งโดยสันติวิธี เน้นย้ำการเสริมสร้างความเข้มแข็งของกระบวนการของเอเชียตะวันออก ความเป็นแกนกลาง ความเป็นเอกภาพของอาเซียน ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงของภูมิรัฐศาสตร์ และความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก รวมทั้งประเด็นความท้าทายข้ามพรมแดนที่มีผลกระทบต่อประชาชนในวงกว้าง โดยเฉพาะในเรื่องของการหลอกลวงทางออนไลน์

ยกเรื่อง เมียนมา ขึ้นมาหารือ

นางมาระตี กล่าวอีกว่า ประเด็นหลักๆ ที่ผู้เข้าร่วมประชุมหยิบยกมาหารือ เช่น เรื่องเมียนมา ที่สนับสนุนให้ยุติความรุนแรง และส่งเสริมการหารือที่ครอบคลุมของทุกฝ่าย แลกเปลี่ยนความเห็นเกี่ยวกับการเลือกตั้งเมียนมา ที่จะมีขึ้นในปลายปีนี้ เรื่องทะเลจีนใต้ ที่ประชุมสนับสนุนการแก้ไขข้อพิพาทโดยสันติและสอดคล้องกับกฎหมายระหว่างประเทศ เรื่องกาซ่า ที่ประชุมยินดีต่อข้อตกลงสันติภาพระหว่างอิสราเอลกับฮามาส สนับสนุนการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมอย่างเร่งด่วน ส่วนประเด็นสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ก็ได้รับการหยิบยกขึ้นมาหารือเหมือนกัน โดยหลายประเทศได้แสดงความยินดีต่อการลงนามในถ้อยแถลงร่วมระหว่างนายกรัฐมนตรีไทยและกัมพูชา ที่มีการลงนามเมื่อ 2 วันที่ผ่านมา และหวังให้ทั้งสองฝ่ายปฏิบัติตามด้วยความจริงใจ เพื่อปูทางไปสู่สันติภาพที่ยั่งยืน

...

จับมือสกัดอาชญากรรมออนไลน์

รองอธิบดีกรมสารนิเทศ และรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวต่อว่า การประชุมที่ 2 คือการประชุมอาเซียน-สหประชาชาติ ครั้งที่ 15 ในการประชุมนี้ ประเทศไทยได้แสดงความมุ่งมั่นในการยึดมั่นระบบพหุภาคี แสดงความพร้อมร่วมมือกับสหประชาชาติเพื่อยกระดับความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในเมียนมา และส่งเสริมความร่วมมือในการรับมือกับภัยคุกคามใหม่ และอาชญากรรมข้ามชาติโดยเฉพาะการหลอกลวงออนไลน์ โดยไทยพร้อมจัดการประชุมระหว่างประเทศ เพื่อส่งเสริมความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาอย่างบูรณาการ

ลงนามการค้าเสรีอาเซียน-จีน

ประชุมที่ 3 คือการประชุมสุดยอดอาเซียน-จีน ครั้งที่ 28 ไฮไลท์ของการประชุมครั้งนี้ คือการลงนามในพิธีสารยกระดับความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-จีน 3.0 ประเด็นที่ไทยให้ความสำคัญในการประชุมอาเซียน-จีน มี 3 เรื่องคือ การบูรณาการทางเศรษฐกิจ ความมั่นคงข้ามพรมแดน โดยเฉพาะภัยคุกคามที่เพิ่มขึ้นจากอาชญากรรมข้ามชาติ รวมทั้งการหลอกลวงออนไลน์ การค้ามนุษย์ และปัญหาสิ่งแวดล้อม การเสริมสร้างสันติภาพและเสถียรภาพ โดยเน้นย้ำการแก้ไขข้อพิพาทด้วยสันติวิธี และสอดคล้องกับกฎหมายระหว่างประเทศ และการส่งเสริมบทบาทเชิงสร้างสรรค์ของจีนต่อสถานการณ์ในภูมิภาค

หนุนความมั่นคงทางทะเล

การประชุมที่ 4 คือการประชุมสุดยอดอาเซียน-นิวซีแลนด์ สมัยพิเศษ ประเทศไทยได้แสดงความยินดีต่อการสถาปนาความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์และรอบด้าน โดยไทยได้กล่าวสนับสนุนความมั่นคงทางทะเล การปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ และการหลอกลวงออนไลน์ การส่งเสริมความร่วมมือด้านภัยพิบัติและสาธารณสุข ระบบการค้าพหุภาคี ตลอดจนความร่วมมือด้านวาระสีเขียว การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เกษตรยั่งยืนและการท่องเที่ยว นอกจากนี้ไทยตระหนักถึงการสนับสนุนความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่เมียนมาของนิวซีแลนด์ ผ่านกลไกของอาเซียน และพร้อมที่จะทำงานร่วมกับนิวซีแลนด์เพื่อสร้างสภาวะที่เอื้อต่อการสร้างสันติภาพและเสถียรภาพในเมียนมา

ต่อต้านหลอกลวงออนไลน์

การประชุมที่ 5 คือการประชุมสุดยอดอาเซียน-ออสเตรเลีย ครั้งที่ 5 ในส่วนของไทยจะผลักดันความร่วมมือกับออสเตรเลีย ผ่านความมั่นคง 3 ด้าน ประเด็นแรก ได้แก่ความมั่นคงในภูมิภาค สนับสนุนความร่วมมือพหุภาคี ความมั่นคงทางทะเล ความมั่นคงทางไซเบอร์ การต่อต้านการหลอกลวงออนไลน์ และการค้ามนุษย์ ประเด็นที่ 2 ความมั่นคงทางเศรษฐกิจ ไทยสนับสนุนการค้าพหุภาคี ส่งเสริมความร่วมมือด้านเศรษฐกิจผ่านกลไกพหุภาคีที่มีอยู่ ส่วนประเด็นที่ 3 เป็นความมั่นคงทางมนุษย์ ส่งเสริมความร่วมมือที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลาง โดยเฉพาะสาธารณสุข การศึกษา และวาระสีเขียว

คุยผู้นำจับมือปราบสแกมเมอร์

นางมาระตี ยังกล่าวถึงการหารือของนายกรัฐมนตรีในช่วง 2 วันนี้ ได้หารือกับผู้นำ ผู้บริหารระดับสูงของประเทศ และผู้นำองค์กรต่างๆ ได้แก่ รองประธานธนาคารโลกประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก และนายกรัฐมนตรีของสิงคโปร์ นิวซีแลนด์ เวียดนาม ออสเตรเลีย จีน และกัมพูชา  ประเด็นหลักๆ ที่หารือกัน ประกอบด้วยการแลกเปลี่ยนการส่งเสริมการเยือน การเพิ่มการค้าการลงทุนระหว่างกัน ความร่วมมือด้านการปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ และการมีปฏิสัมพันธ์กับประเทศเหล่านี้ในโอกาสต่างๆ ทั้งในกรอบทวิภาคีและพหุภาคี

ย้ำ กัมพูชา ต้องปฏิบัติอย่างจริงใจ

สำหรับประเด็นการหารือทวิภาคีระหว่างไทยกับกัมพูชา นายกรัฐมนตรีได้ขอบคุณนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ที่ได้มีหนังสือแสดงความเสียใจต่อการสวรรคตของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง  นอกจากนี้นายกรัฐมนตรี ได้ย้ำความสำคัญที่ทั้งสองประเทศ จะต้องนำถ้อยแถลงไปสู่การปฏิบัติอย่างจริงจังและจริงใจให้เกิดผลที่เป็นรูปธรรมโดยเร็ว โดยเฉพาะใน 4 ประเด็นที่ได้ตกลงกันไว้แล้ว คือการถอนอาวุธหนักออกจากพื้นที่ชายแดน การเก็บกู้ทุ่นระเบิด การปราบปรามขบวนการอาชญากรรมข้ามชาติ โดยเฉพาะสแกมเมอร์ และการบริหารจัดการพื้นที่ชายแดน

เร่งสื่อสารการทูตสองประเทศ

นอกจากนี้นายกรัฐมนตรี ได้ย้ำความรับผิดชอบของทั้งสองฝ่าย ที่ต้องดำเนินการเพื่อสร้างความมั่นคง ความปลอดภัย ให้แก่ประชาชนทั้งสองประเทศ และเห็นควรเพิ่มการสื่อสารทางการทูตระหว่างกัน และมอบหมายให้รัฐมนตรีต่างประเทศของทั้งสองฝ่าย หารือกันโดยเร็วและมากขึ้น