“วีระยุทธ กาญจน์ชูฉัตร” จี้รัฐบาลสื่อสารเรื่องแรร์เอิร์ธกับสังคมให้ชัดเจน ชี้เรื่องใหญ่คือเรื่องภูมิรัฐศาสตร์ หากไทยยอมให้ประเทศมหาอำนาจหนึ่ง อาจต้องยอมให้ประเทศมหาอำนาจอื่นต่อ แนะคลังศึกษาผลดีผลเสียยกเลิกเงินสินบนนำจับ
วันที่ 28 ตุลาคม 2568 ที่อาคารอนาคตใหม่ นายวีระยุทธ กาญจน์ชูฉัตร รองหัวหน้าพรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนถึงกรณีการลงนามข้อตกลงร่วม (Joint Statement) ระหว่างไทยกับสหรัฐอเมริกา ระหว่างการประชุมสุดยอดอาเซียนเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ว่า เรื่องที่มีการลงนามระหว่างไทยกับสหรัฐอเมริกานั้นมีอยู่ 2 เรื่องที่คาบเกี่ยวกัน กรณีแรกคือข้อตกลงร่วมเรื่องภาษีทรัมป์ ที่รอบแรกเมื่อเดือนเมษายน 2568 มีการประกาศปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากไทยเป็น 36% รอบที่สองเมื่อเดือนสิงหาคม-กันยายน มีการประกาศลดเหลือ 19% แต่ในเวลานั้นสังคมไทยยังไม่รู้ว่าเราเอาอะไรไปแลกบ้าง เมื่อการเจรจาเป็นรอบที่ 3 ข้อดีคือประเทศไทยเห็นแล้วว่าประเทศคู่แข่งต่อรองกับสหรัฐอเมริกาอย่างไร ควรเปรียบเทียบว่าสิ่งที่ประเทศไทยเอาไปแลกกับสหรัฐอเมริกาเยอะเกินไปหรือไม่ เช่น เครื่องบินที่สหรัฐอเมริกาบังคับให้ทุกประเทศซื้อหมด แต่ประเทศไทยซื้อเยอะที่สุดจำนวน 80 ลำ รวมมูลค่ากว่า 6 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นผลจากการต่อรองอัตราภาษีจาก 36% ให้เหลือ 19% ขณะที่เวียดนามต่อรองจาก 46% ลงมาเหลือ 20% แต่ซื้อเครื่องบินแค่ 50 ลำ ขณะที่มาเลเซียเสนอซื้อเพียง 30 ลำเท่านั้น
ส่วนเรื่องแร่หายาก หรือ แรร์เอิร์ธ แม้จะยังอยู่ระหว่างการต่อรองในรอบแรก ของการลงนาม MOU แต่ประเทศไทยต้องมีการเตรียมตัวและสำรวจได้แล้ว และหากจะมีการเจรจาแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ในอนาคต สิ่งที่จะมีการปันผลประโยชน์ต้องมีความชัดเจน เมื่อยังเป็นรอบที่หนึ่งก็ต้องเริ่มคุย หากปล่อยไปก็อาจถูกเอาเปรียบได้ รัฐบาลควรสื่อสารเรื่องแรร์เอิร์ธกับสังคมให้ชัดเจน เพราะเป็นเรื่องที่มีความสำคัญในเชิงยุทธศาสตร์ จะวางกรอบการปันผลประโยชน์ในอนาคตอย่างไร ทั้งนี้ เรื่องใหญ่ที่สุดก็คือเรื่องภูมิรัฐศาสตร์ เพราะการลงนาม MOU กับสหรัฐอเมริกาเมื่อเกิดขึ้นแล้ว จีนก็จะถามว่าแล้วกับจีนประเทศไทยจะเอาอย่างไร หากประเทศไทยเริ่มยอมมหาอำนาจประเทศหนึ่ง ก็อาจจะต้องมีการยอมให้กับมหาอำนาจประเทศอื่นต่อ และอาจจะต้องยอมให้เขามากกว่า
...
“ประสบการณ์ที่ผ่านมาทำให้คนไทยกังวลเรื่องผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม หากเรามีการผลิตแรร์เอิร์ธเพิ่มขึ้นจริงจัง จะมีการควบคุมได้จริงหรือไม่ เช่นเดียวกับการแบ่งปันผลประโยชน์ หากประเทศไทยมีสินแร่และมีความสามารถในการผลิต สุดท้ายจะมีการปันผลประโยชน์อย่างไรให้เป็นธรรม เมื่อประเทศมหาอำนาจมียุทธศาสตร์แรร์เอิร์ธแล้ว เราก็ต้องมียุทธศาสตร์เช่นกันว่าจะอยู่จุดไหนในซัพพลายเชน”
แต่สิ่งที่น่ากังวล คือเรื่องที่ประธานาธิบดีทรัมป์ยึดเป็นหลักในการเจรจากับประเทศในเอเชียคือเรื่อง “ภาษีดิจิทัล” ซึ่งบริการและผลิตภัณฑ์ดิจิทัลเป็นแหล่งรายได้สำคัญและเป็นสิ่งที่ประเทศไทยมีการสูญเสียออกนอกประเทศอยู่มาก บริการต่างๆ ที่ประเทศไทยใช้อยู่ในปัจจุบันมาจากสหรัฐอเมริกาเป็นจำนวนมาก มีการเขียนไว้ในข้อตกลงร่วมว่าขอให้ประเทศไทยละเว้นการเก็บภาษีในส่วนนี้
นายวีระยุทธกล่าวต่อไปว่า อีกกรณีที่อาจจะยังไม่ค่อยเป็นข่าว คือในข้อตกลงร่วมที่ไทยลงนามกับสหรัฐอเมริกา มีการระบุไว้ชัดเจนว่าขอให้กรมศุลกากรยกเลิก “ระบบการให้เงินสินบนและรางวัลนำจับ” ซึ่งประเทศไทยใช้มายาวนาน เป็นอีกกรณีที่ยังไม่เคยมีการหารือกันภายในประเทศมาก่อนและน่าจะเป็นข่าวครั้งแรก ซึ่งตนอยากให้กระทรวงการคลังศึกษาให้ชัดว่าจะไปทางนี้จริงหรือ จะมีผลได้ผลเสียอย่างไรทั้งกับประเทศและกลไกราชการ