อดีต สว. ร้องผู้ตรวจการแผ่นดิน ส่งศาล รธน. ตีความรัฐสภาไม่ทำประชามติถามประชาชนต้องการแก้รัฐธรรมนูญหรือไม่ ขัดรัฐธรรมนูญ-คำวินิจฉัยศาลหรือไม่
วันที่ 28 ตุลาคม 2568 นายดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม อดีตสมาชิกวุฒิสภา เข้ายื่นคำร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดินขอให้พิจารณาส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า การที่รัฐสภาไม่ดำเนินการทำประชามติสอบถามประชาชนว่าต้องการให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญก่อนที่จะดำเนินการยกร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น เป็นการกระทำที่มิชอบด้วยรัฐธรรมนูญ และขัดต่อคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ 4/2564 ที่ระบุว่ารัฐสภาไม่มีอำนาจแก้ไขรัฐธรรมนูญได้ทั้งฉบับหรือไม่
นายดิเรกฤทธิ์กล่าวต่อว่า ตนเห็นว่ากระบวนการของรัฐสภาที่นำร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคการเมืองเข้ามาพิจารณาในที่ประชุมรัฐสภา เป็นการผิดขั้นตอนสำคัญตามรัฐธรรมนูญโดยระบุถึงปัญหาที่เคยเกิดขึ้นเมื่อปี 2564 สมัยที่ตนยังเป็น สว. ซึ่งรัฐสภาเห็นว่าไม่มีอำนาจพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับได้ ทำได้เพียงการแก้ไขเพิ่มเติมเท่านั้น แต่ขณะนั้นพรรคเพื่อไทยได้เสนอให้เพิ่มเติมหมวด 15/1 ว่าด้วยการเขียนรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งเกินอำนาจของรัฐสภา จึงมีการเสนอญัตติและศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยที่ 4/2564 ออกมาอย่างชัดเจนว่าการเสนอร่างที่มีหมวดใหม่เช่นนี้ เป็นการทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ซึ่งเกินอำนาจรัฐสภา และศาลได้ชี้ให้เห็นว่าต้องทำประชามติถามอำนาจที่เหนือกว่ารัฐสภาก่อน
อดีต สว.กล่าวด้วยว่า ต้องทำประชามติก่อนที่จะเอาร่างพวกนี้เข้ามาพิจารณาในรัฐสภา ปัจจุบันนี้มีการฝ่าฝืนและจงใจไม่ปฏิบัติตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ โดยได้นำร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้ง 3 ร่างมาพิจารณาลงมติรับหลักการในวาระที่ 1 แล้ว และมีการตั้งคณะกรรมาธิการเพื่อดำเนินการในรายละเอียดและจะแปรญัตติในวาระที่ 2 และ 3 ต่อไป จึงจำเป็นต้องหยุดความเสียหายของประเทศชาติถ้าการดำเนินการแบบนี้ขัดกับรัฐธรรมนูญ จึงมาร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดินเพื่อให้พิจารณาส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญได้ชี้ขาดว่าการกระทำดังกล่าวของรัฐสภาชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือไม่ และชอบด้วยคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่ หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเห็นตามที่เราร้องการดำเนินการแก้ไขขณะนี้ก็จะต้องยุติลง
...
นอกจากนี้ นายดิเรกฤทธิ์ยังแสดงความเห็นว่า การพิจารณาของผู้ตรวจการแผ่นดินคงใช้เวลาไม่นาน เพราะประเด็นที่ร้องมีเพียงประเด็นเดียว คือกระบวนการของรัฐสภาที่ไม่ทำประชามติถามประชาชนว่าเห็นควรแก้ไขรัฐธรรมนูญก่อน เนื่องจากประชาชนอาจจะยังต้องการรัฐธรรมนูญฉบับนี้อยู่ก็ได้ แต่รัฐสภากลับไปลงมติรับหลักการและตั้งกรรมาธิการเสมือนว่าพวกเราไม่เอารัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันแล้ว ซึ่งถือว่ากระทบสิทธิเสรีภาพของประชาชนโดยตรง