กระทรวงดิจิทัลฯ ยกระดับวอร์รูมอัพเดตข้อมูลเรียลไทม์ เพิ่มยาแรง ตอบโต้สแกมเมอร์-จำกัดใช้งานซิมมือถือรวมทุกค่ายต่อคนไม่เกิน 5 ซิม - สั่งฟันหากพบเจ้าหน้าที่เอี่ยว


เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 24 ต.ค. 2568 นายไชยชนก ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอี แถลงข่าวหลังการประชุม คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ครั้งที่ 6/2568 นานกว่า 6 ชม.ว่า ได้เพิ่มการยกระดับวอร์รูมการทำงาน ทั้งโอเปอเรเตอร์ และธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ แบงก์ชาติ เพื่ออัพเดตข้อมูลแบบเรียลไทม์ สถานการณ์ได้เร็วขึ้นและขอให้สำนักงาน กสทช. และธนาคารแห่งประเทศไทยรวบรวมข้อมูลต่างๆ ของบัญชีม้า ซิมการ์ด และไอพีแอดเดรสต่างๆ ทั้งอดีตและปัจจุบัน เพื่อให้เป็นยาแรงมากขึ้นให้เวลา 1 สัปดาห์ เพื่อทำรายงานกลับมา 

ส่วน กสทช. ได้สั่งการให้จำกัดการลงทะเบียนซิม 5 ซิมต่อคนรวมทุกค่าย และไม่ให้ลงทะเบียนผ่านลูกตู้ ให้ลงผ่านโอเปอเรเตอร์เท่านั้น หากจำเป็นต้องใช้เพิ่มให้มาขอเพิ่มการลงทะเบียนได้ และจะเพิ่มการประชุมสัปดาห์ละ 1 ครั้ง เพื่อติดตามสถานการณ์

สินบน 40 ล้านใกล้เปิดเผย

ขณะที่ล่าสุด พรก.ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2568 อยู่ระหว่างปรับปรุงแก้ไข เพิ่มบทลงโทษ ส่วนความคืบหน้ากรณี 40 ล้านบาท รมว.ดีอี เปิดเผยว่า มีการขยายความต่อแล้ว โดยกระทรวงดีอี ทราบผู้เกี่ยวข้องแล้ว และจะสามารถเปิดเผยได้เร็วๆ นี้  เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า หากพบเจ้าหน้าที่รัฐ และข้าราชการมีส่วนเกี่ยวข้องจะดำเนินการอย่างไร รมว.ดีอี ระบุว่าหากพบว่ากระทำผิดจะมีมาตรการลงโทษตามลำดับ


ด้าน พล.ต.ท. จิรภพ ภูริเดช ผช.ผบ.ตร. กล่าวถึงกรณีที่ก.ร.ตร.มีมติชี้มูลความผิดทางวินัยต่อ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) และข้าราชการตำรวจที่เกี่ยวข้องอีกกว่า 200 นาย สืบเนื่องจากกรณีที่ ษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม ได้ยื่นเรื่องร้องเรียนเมื่อเดือนมีนาคม 2567 กล่าวหาเกี่ยวกับการรับเงินจากขบวนการส่วยเว็บพนันออนไลน์นั้น พล.ต.ท. จิรภพ  ยืนยันว่า  หากพบผู้กระทำผิดจะดำเนินการทันที

...