“ โสภณ” คิกออฟ เดินหน้าแก้ปัญหายาเสพติดทั่วประเทศ ชูบุรีรัมย์โมเดล ลั่น 4 เดือนเห็นผล ขอ 4 ปีจบยาเสพติด ต้องใช้ข้อมูลจริงแก้ปัญหายั่งยืน


เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 24 ตุลาคม 2568 ที่สนามช้างอารีนา จังหวัดบุรีรัมย์ นายโสภณ ซารัมย์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดโครงการ “รวมพลังรัก ศรัทธา แก้ปัญหายาเสพติดแบบบูรณาการ” โดยมี น.ส. ศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พลโท อดุลย์ บุญธรรมเจริญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ผู้ว่าราชการจังหวัด 20 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และผู้บริหารหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมอย่างคึกคัก

บรรยากาศบริเวณด้านนอกสนามช้างอารีนาเป็นไปอย่างคึกครื้น เริ่มตั้งแต่ช่วงเช้า มีขบวนพาเหรดจากหน่วยงานและจังหวัดต่างๆ รวมกว่า 35 ขบวน เข้าร่วมแสดงพลัง “รวมใจต้านยาเสพติด” ก่อนเข้าสู่พิธีเปิดอย่างเป็นทางการ โดยมีการฉายภาพยนตร์สั้น “คนฝ่านรก” ความยาวประมาณ 3-5 นาที ถ่ายทอดเรื่องราวแรงบันดาลใจจากผู้ผ่านการบำบัดและฟื้นฟู

ต้องการเห็นผลทุกพื้นที่

ภายในพิธี ผู้แทนมูลนิธิอาณัตพล (ลูกเติ้ง) ได้มอบป้ายเงินสนับสนุนการดำเนินงานให้แก่ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ จากนั้นนายโสภณ ซารัมย์ ประธานในพิธี กล่าวเปิดงานและนำผู้เข้าร่วมกิจกรรมแสดงเจตนารมณ์ร่วมกันในการแก้ไขปัญหายาเสพติดแบบบูรณาการ โดยยืนยันรัฐบาลให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างจริงจัง ไม่เพียงต้องการนโยบายที่ดี แต่ต้องเห็นผลในพื้นที่จริง บูรณาการทุกภาคส่วน เดินหน้าไปพร้อมกัน เพื่อสร้างความปลอดภัย ความสงบ และอนาคตที่มั่นคงให้กับประชาชนทั่วประเทศ

...


ขอ 4 ปี เห็นผลเป็นรูปธรรม

นายโสภณ กล่าวด้วยว่า การดำเนินงานที่เริ่มต้นมาในระยะเวลา 4 เดือนที่ผ่านมา อาจยังไม่เห็นผลชัดเจนในทุกพื้นที่ แต่ยืนยันว่ารัฐบาลจะไม่หยุดเดินหน้าและจะทำให้เห็นผลอย่างเป็นรูปธรรมภายใน 4 ปีอย่างแน่นอน โดยกล่าวด้วยน้ำเสียงมั่นใจว่า “ขอให้พี่น้องประชาชนอดใจอีกนิด วันนี้อาจยังไม่เห็นผลเต็มที่ แต่ถ้าให้เวลาเรา 4 ปี ทุกคนจะเห็นความเปลี่ยนแปลงที่จับต้องได้ ทั้งในชุมชน ครอบครัว และชีวิตของลูกหลาน”

ต้องเน้นที่ภูมิคุ้มกันในชาติ

นายโสภณ  กล่าวต่อว่า ทำไมตนไม่พูดเรื่องปราบปราม เรื่องปราบปรามการนำเข้าสิ่งผิดกฎหมาย มาจากประเทศเพื่อนบ้าน ต้องเพิ่มความเข้มข้นฝ่ายทหาร ปปส. ตำรวจก็ตาม ที่อยู่ในแนวชายแดนต้องสกัดกั้นให้ได้ ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม อย่าบอกยาเสพติดไม่มีวันหายออกจากประเทศ หรือในโลกนี้เพราะมันมีวัตถุดิบ ที่จะนำมาผสมเป็นยาเสพติดได้ง่าย มันอยู่ใกล้มือ  อย่างเช่นเอายาสามัญบางพวก เอามาผสมเอานั่นเอานี่มาผสมกันก็กลายเป็นยาเสพติด แต่ส่วนยาบ้ามันก็อย่างที่ว่า มันก็มีมาทุกครั้ง แต่ว่าสิ่งที่สำคัญที่เราอยากจะทำให้ประเทศนี้เห็นก็คือการสร้างภูมิคุ้มกันให้คนในชาติ ไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับมัน ถ้ายุ่งเกี่ยวแล้วก็ต้องบำบัด


ลั่นอยากได้เสียงเกินครึ่ง

“คนทั่วไปทำไมต้องนึกว่า ต้องมาเอาใจคนพวกนี้ ทำไมต้องมาสนใจคนพวกนี้ ถ้าเราไม่สนใจคนพวกนี้ปริมาณมันก็จะเพิ่มขึ้น คนพวกนี้จะเป็นภาระของสังคม ทั้งเรื่องเศรษฐกิจ ทั้งอะไรต่อมิอะไร ทั้งเรื่องความปลอดภัย รวมถึงคนไม่มีคุณภาพ ดังนั้นต้องสกัด บ้านเมืองถ้าเราปล่อยไปมากกว่านี้ถ้าไม่เอาจริงเอาจัง เราง่อยเปลี้ยเสียขาแน่นอน เพราะประชาชนไม่มีคุณภาพ ดังนั้นการที่จะสร้างภูมิคุ้มกันก็คือ ขออีก 4 ปีเรื่องนี้จะจบเลย ขออีก 4 ปีเรื่องนี้จะจบเลย จริงจัง พิสูจน์กันวันนี้ เราเอาผลงานมาพิสูจน์ เพราะไม่อยากโม้หรือฝอย คืออยากได้อยากอยู่ 4 ปี อยากได้เสียงเกินครึ่ง แต่ไม่มีผลงาน มีแต่คำพูด วันนี้เราจะเริ่มให้มีผลงานอย่างเป็นรูปธรรมให้ประชาชนได้เห็นอย่างชัดเจน ถ้าประชาชนเห็นชัดเจน สื่อไม่ต้องบอกก็ได้ชาวบ้านเขาก็กา ถ้าประชาชนรู้ว่าโครงการนี้ทำให้พวกเขามีความสุข ประชาชนกาหมดนะครับ”


ยก บุรีรัมย์ โมเดล

นายโสภณ กล่าวเพิ่มเติมว่า จ.บุรีรัมย์ถือเป็นต้นแบบของการแก้ปัญหายาเสพติดในชุมชน ที่เริ่มดำเนินการมาแล้วกว่า 2 ปี ซึ่งหลังจากนี้จะจัดทำ “กองบุญผ้าป่ายาเสพติด” โดยจะให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการระบุรายชื่อกลุ่มเสี่ยงในหมู่บ้าน และส่งต่อให้คณะกรรมการระดับตำบลดำเนินการคัดกรอง ซึ่งในวันที่ 1 พฤศจิกายน 68 นี้ จะเริ่มตรวจคัดกรองและนำเข้าสู่กระบวนการบำบัดฟื้นฟูอย่างเป็นระบบต่อไป