ครม. เห็นชอบหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการจ่ายเงินช่วยผู้ประสบน้ำท่วม ใช้งบกลางฉุกเฉิน 6,169 ล้าน เหมาจ่ายอัตราเดียวครัวเรือนละ 9,000 บาท
วันที่ 21 ตุลาคม 2568 นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติตามที่กระทรวงมหาดไทย (มท.) เสนอ โดยเห็นชอบหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในช่วงฤดูฝน ปี 2568 และอนุมัติกรอบวงเงินงบประมาณในการดำเนินการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย จากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น วงเงิน 6,169.986 ล้านบาท เพื่อจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในช่วงฤดูฝน ปี 2568 โดยให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เป็นหน่วยรับงบประมาณและจ่ายเงินช่วยเหลือแก่ผู้ประสบภัยผ่านธนาคารออมสิน ให้เบิกจ่ายในงบเงินอุดหนุน ลักษณะเงินอุดหนุนทั่วไป รวมทั้งให้สามารถจ่ายถัวข้ามจังหวัดได้
ทั้งนี้ ปภ. ได้ตรวจสอบและยืนยันจำนวนครัวเรือนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์อุทกภัยครั้งนี้ จำนวน 685,554 ครัวเรือน มีพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ/พื้นที่ประกาศเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัย/พื้นที่ประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน รวม 65 จังหวัด ขณะที่กระทรวงมหาดไทยได้จัดทำหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในช่วงฤดูฝน ปี 2568 โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้
...
หลักเกณฑ์และเงื่อนไขการจ่ายเงินช่วยเหลือน้ำท่วม
1. เป็นกรณีอุทกภัยที่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อที่อยู่อาศัยในช่วงฤดูฝนปี 2568 ตั้งแต่วันที่ 15 พฤษภาคม 2568 ทั้งกรณีน้ำท่วม ดินถล่ม น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง รวมถึงการระบายน้ำจนส่งผลกระทบทำให้ไม่สามารถดำรงชีวิตได้
2. เป็นที่อยู่อาศัยที่ประสบอุทกภัย ตามข้อ 1. และได้รับผลกระทบกรณีใดกรณีหนึ่ง ดังต่อไปนี้
- ที่อยู่อาศัยประจำถูกน้ำท่วมขัง ไม่เกิน 7 วัน และทรัพย์สินได้รับความเสียหาย
- ที่อยู่อาศัยประจำถูกน้ำท่วมขัง เกินกว่า 7 วันขึ้นไป
3. ต้องเป็นบ้านที่อยู่อาศัยประจำในพื้นที่ที่ได้ประกาศเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัย และหรือประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน
(1) มีหนังสือรับรองผู้ประสบภัยที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นออกให้ตามพระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. 2550
(2) ผ่านการประชาคมหมู่บ้านของแต่ละพื้นที่ประสบสาธารณภัย
(3) ผ่านการตรวจสอบและยืนยันข้อมูลจากคณะกรรมการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ (ก.ชภ.อ.) และคณะกรรมการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติจังหวัด (ก.ช.ภ.จ.)
4. กรณีผู้ประสบภัยหลายครั้ง ให้ได้รับความช่วยเหลือเพียงครั้งเดียว
ทั้งนี้ อัตราการจ่ายเงินช่วยเหลือเป็นรูปแบบเหมาจ่ายอัตราเดียว ครัวเรือนละ 9,000 บาท โดยให้ธนาคารออมสินจ่ายให้แก่ผู้ประสบภัยที่มีสิทธิได้รับเงินช่วยเหลือโดยตรง ผ่านรูปแบบการโอนเงินเข้าบัญชีผ่านระบบพร้อมเพย์ (Promptpay) ให้จังหวัดที่ประสบภัยเร่งรัดดำเนินการตรวจสอบความถูกต้องตามหลักเกณฑ์และช่วยเหลือให้แล้วเสร็จ ภายใน 90 วัน หลังจากได้รับการจัดสรรงบประมาณ
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีความเห็น ดังนี้
- สำนักงบประมาณ เห็นควรให้ มท. โดย ปภ. ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลผู้ประสบภัยในพื้นที่ให้มีความชัดเจน ถูกต้อง ครบถ้วน ครอบคลุมพื้นที่ที่ประสบภัยตามข้อเท็จจริงอย่างเคร่งครัด และไม่มีความซ้ำซ้อนอย่างรอบคอบ รวมทั้งปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ มติคณะรัฐมนตรี และหนังสือเวียนที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้องอย่างครบถ้วน
- สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือ สภาพัฒน์ พิจารณาแล้วเห็นควรกำชับจังหวัดที่ประสบภัยให้เร่งตรวจสอบความถูกต้องและความซ้ำซ้อนของครัวเรือนที่มีสิทธิได้รับความช่วยเหลือให้แล้วเสร็จโดยเร็วเพื่อไม่ให้เกิดความล่าช้า.